ดูซีรี่ย์

โค้ชยุคใหม่ ปรัชญาการทำทีมที่มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้ มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้แล้ว

โค้ชยุคใหม่ ปรัชญาการทำทีมที่มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้ ฟุตบอลยุคใหม่ที่เงินมีความสำคัญที่สุด

โค้ชยุคใหม่ ปรัชญาการทำทีมที่มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้ ยุคนี้อย่างที่แฟนบอล และหลายคนทราบกันดี ว่ายุคสมัยนี้นั้น การมีเงินจำนวนมาก ในการซื้อนักเตะและ บริหารทีมได้นั้น เป็นเรื่องปกติที้หลายทีมก็ทำกัน

และมันเป็นเรื่องจริง และถูกแสดงมาฝห้เห็น รวมถึงแฟนบอลหลายคน ก็พูดกันว่าการใช้เงิน เพื่อซื้อนักเตะ รูปแบบการโค้ช สร้างทีมจะ ทำให้สามารถคว้าแชมป์มา อยู่กับทีมได้ ซึ่งในยุคปัจจุบัน มีหลายสโมสรเลยก็ว่าได้

ที่ใช้เงินจำนวนมาก เพื่อพัฒนาทีม และทำให้ทีมคว้าแชมป์ได้ แต่มันจะเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ เพราะการใช้เงิน จำนวนมหาศาลสิ่งที่ ต้องตามมาเลยก็คือ ความสำเร็จและ เป้าหมายที่ต้องมี ชัดเจนในเส้นทางของแชมป์

ยุคสมัยนี้นั้น ความกดดันในการแข่งขัน สูงมากรวมถึงในตำแหน่งผู้จัดการ ที่มีความกดดันสูงมาก โค้ชมุ่งเน้นเรื่องอะไร ที่จะต้องมีแชมป์ติดมือให้ได้ ความกดดันของผู้จัดการทีม ของการไปคุมทีมที่ สามารถลงเงินซื้อนักเตะให้มาก

ความกดดันก็จะ มากตามแต่การมีเงินใน การทำทีมมาก ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะการมี เม็ดเงินจำนวน มากอยู่ในมือ จะทำอะไร ก็ง่ายไปหมด โดยเฉพาะการดึง นักเตะฝีเท้าดี มาสู่ทีม เพื่อกระชากแชมป์ ตามเป้าหมาย ของสโมสร

การใช้เงินจำนวน มากซื้อนักเตะ เหมือนการแข่งรถ โดยมีเครื่อง ยนต์ดี และงบมากกว่า คู่แข่ง หากเกิด ปัญหาตรงไหน สามารถหา อะไหล่มาซ่อม, เปลี่ยน หรือพัฒนาชิ้นส่วนใหม่ ได้อย่างรวดเร็ว ดูซีรี่ย์

ช่วยให้ทีม เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องกลัว เจอปัญหาสะดุด กลางทาง เช่นในรายของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ในการคุมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใช่ว่าจะไม่เจอปัญหา โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งกองหลัง

ที่เล่นไม่ดี จนกลายเป็น จุดอ่อนของทีม และพาทีมเรือใบสีฟ้า จากแมนเชสเตอร์ ไปไม่ถึงฝั่งฝันอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบ ของการมีเงินทุน จำนวนมาก คือต่อให้ กวาร์ดิโอลาใช้เงิน ซื้อกองหลัง

ได้ผู้เล่นไม่ตอบโจทย์ มาหลายครั้ง สุดท้ายทีม ก็สามารถซื้อ แนวรับหน้าใหม่ มาแทนตัวเก่า ที่ล้มเหลว ได้อยู่ดี บทบาทของโค้ช เพราะมีงบประมาณ ก้อนโตคอยสนับสนุน กองหลังหลายคน ที่เป๊ปเคยซื้อมา พังพินาศอย่างไม่เป็นท่า

ไม่ว่าจะเป็น แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ หรือ ดานิโล่ แต่ แมนซิตี้ ไม่เคยสนใจ มีแต่จะอัดเงินเพิ่ม เพื่อหากำแพงเหล็ก ที่ดีกว่าเดิม จนได้ตัวผู้เล่นอย่าง อายเมอริก ลาปอร์ต, ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส และ เชา กานเซโล

จนกลายเป็น รากฐานความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ที่คว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก 3ครั้ง จาก 4 ฤดูกาลหลังสุดได้ จากการได้กองหลังที่ตอบโจทย์ได้ดี และมีความสำเร็จ ที่จะตามมาอีกมากมาย อย่างแน่นอน

นับจากปี 2016 เป็นต้นมาแมนซิตี้ ใช้เงินซื้อกองหลังให้ เป๊ปมากกว่า 400ล้านปอนด์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากขุมกำลังเรือใบสีฟ้า จะแข็งแกร่ง เกินหน้าเกินตาทีมอื่น กลายเป็นสโมสรเบอร์1 ของประเทศอังกฤษ

โค้ชยุคใหม่ ปรัชญาการทำทีมที่มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้ ฟุตบอลที่ไม่ใช่มีเพียงก็สามารถครองได้หมดทุกสิ่ง

โดยแม้การมีเงิน ในการทำทีม มันสามารถเป็นแชมป์ได้ แต่ไม่การันตีใน แชมป์ได้ 100เปอร์เซ็น ด้วยการใช้เงินก้อนโต ซื้อนักเตะฝีเท้าดี ช่วยสร้างความ ได้เปรียบใน แง่ขุมกำลัง นักเตะก็จริง

แต่ไม่ใช่เครื่อง รับประกันว่า จะประสบความสำเร็จทุกถ้วย หรือทุกปี เพราะหลายครั้ง เราได้เห็นทีมที่ใช้เงิน ล้มเหลวหลัง จบฤดูกาลอยู่บ่อยไป เช่นแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือ ปารีส แชงต์ แชร์กแมง ระบบอคาเดมี่ฟุตบอล

ที่ต่อให้ครองความยิ่งใหญ่ กับฟุตบอลในประเทศ ทั้งสองทีม ยังคงไม่เคย ไปถึงการคว้าแชมป์ยุโรป อันเป็นเป้าหมายสูงสุด ของทั้งสองสโมสรได้เสียที เพราะสุดท้าย เงินเป็น แค่การสร้างความได้เปรียบ ให้กับอีกฝ่าย

แต่สิ่งที่ทุกสโมสร ฟุตบอลบนโลก เท่าเทียมกัน คือ ยามลงสนาม พวกเขาส่งผู้เล่น ได้แค่ 11คน คุณสมบัติของผู้ฝึกสอนกีฬา ไม่ว่าจะ เป็นทีมมหาเศรษฐี หรือทีมรากหญ้า ทุกสโมสร ย่อมมีนักเตะ ที่ดีที่สุด ส่งลงสนามซ้ำๆ และไม่สามารถ

เลี่ยงถึงปัญหา อาการเจ็บที่ เข้ามารบกวนได้ ถึงจะมีคุณภาพ นักเตะที่ดีกว่า แต่งานยาก ของโค้ชพันล้าน ไม่ต่างจาก ผู้จัดการทีมสโมสรรากหญ้า คือต้องรู้จักบริหาร จัดการทรัพยากร ในทีมให้เป็น

เพื่อหลีกเลี่ยง ปัญหาอาการบาดเจ็บ ที่จะเกิดขึ้น ในทางกลับกัน สโมสรขนาดเล็ก นักฟุตบอลตัวจริงกับสำรอง บางครั้งฝีเท้า ไม่ได้ห่างกัน พอจะทดแทนได้ หากผู้เล่นตัวหลัก ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ

แต่พอเป็นทีมยักษ์ใหญ่ หลังจากแข้งทอง หลายสิบล้าน เจออาการบาดเจ็บเล่นงาน กลายเป็นเรื่องยาก ที่จะหานักเตะ มาทดแทน เพราะฝีเท้าตัวจริง กับสำรองห่างกันเกินไป จนกลายเป็นปัญหาที่ ผู้จัดการทีม คิดกันไม่ตก

โค้ชยุคใหม่

โค้ชยุคใหม่ ปรัชญาการทำทีมที่มีเงินก็ซื้อแชมป์ได้ ความกดดันของผู้จัดการทีมในยุคสมัยนี้

โดยผู้จัดการทีมของ สโมสรฟุตบอลพันล้านในยุคนี้นั้น จะต้องเผชิญกับ ความกดดันมหาศาล กับการใช้เงิน จำนวนมากไปกับ การซื้อนักเตะ ทั้งจากแฟนบอล และผู้บริหาร เพราะยิ่งจ่ายไปมากเท่าไหร่ ความสำเร็จที่ กลับมาต้องคุ้มค่ามากเท่านั้น

ขณะที่ทีมขนาดเล็ก ไม่ได้ใช้เงินมากมาย ในการสร้างทีม ผลงานไม่จำเป็น ต้องหวังเยอะ ขออยู่กลางตาราง หรือรอดตกชั้นก็ เพียงพอ โค้ชบางคนจึง อยู่กับสโมสรเดิม ได้อย่างยาวนาน ดูได้จาก เดวิด มอยส์

สมัยคุม เอฟเวอร์ตัน, คริสเตียน สไตร์ช กับ เอสเซ ไฟร์บวร์ก ในปัจจุบัน รวมถึง ซิโมเน อินซากี กับ ลาซิโอ เป็นต้นแต่พอ เป็นทีมฟุตบอลเงินถุงเงินถัง หากไม่สามารถ คว้าแชมป์ติดมือได้ทุกปี คงไม่มีทางจะอยู่ในตำแหน่ง

ได้ตลอดรอดฝั่ง มีอันแต่จะต้อง เตรียมตัวถูกปลดออกจากตำแหน่งในทันที ดังนั้น การเป็นผู้จัดการทีม คุณสมบัติของผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอล พันล้านจึง ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่น้อย เพราะสุดท้ายแล้ว คุณต้องเก่งจริง ๆ เท่านั้น ถึงจะอยู่ในตำแหน่งได้ทุกปี

เพราะความผิดพลาด เพียงเล็กน้อย สามารถทำให้คุณถูกเด้ง ออกจากตำแหน่งได้อย่างง่ายดาย มีหลายคน ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และมีชื่อเสียงรวมถึง มีโค้ชหลายคนโดนปลด จากทีมเพราะห่างไกลความสำเร็จ

ความล่มเหลวที่ห้ามพลาด ที่นำไปสู่การเปลี่ยนผู้จัดการอยู่หลายครั้ง

โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้น คืออีกหนึ่งสโมสร ซึ่งเคยมีช่วงเวลา ที่ชอบเชือดคอผู้จัดการทีม หากทำผลงานได้ ไม่ตามเป้า ย้อนไปในยุคของหลุยส์ ฟานกัลช่วงปี 2014 ถึง2016 ทัพปีศาจแดงทุ่มเงิน

เกือบ 300ล้านปอนด์ ภายในเวลา 2ปี ซื้อนักเตะอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย, ลุค ชอว์, อังเดร เอร์เรรา, อ็องโตนี มาร์กซิยัล, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, เมมฟิส เดปาย, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ หวังสร้าง ความสำเร็จให้กับทีม

แต่สุดท้ายฟานกัล ทำได้แค่แชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2016 เพียงถ้วยเดียว แถมยังหลุด พื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งไม่เพียงพอต่อ ความต้องการของบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด กับเงินที่ลงทุนไป นำมาสู่การเด้งกุนซือออก

มีเงินก็ได้แชมป์กับบางที บางครั้ง มันก็แลกมาด้วยความกดดันและ เวลาความจริง

ความกดดัน และความเครียด จึงเป็นสิ่งที่ ผู้จัดการทีมเหล่านี้ ต้องเผชิญ หลายครั้งพวกเขาแสดงให้เห็น ถึงการคิดมากเกินไป หรือตัดสินใจแบบซับซ้อนเกิดเหตุ เพราะไม่มีพื้น ที่ความผิดพลาดให้ กับโค้ชพันล้าน

พวกเขาแทบ จะแพ้ไม่ได้ ต้องหาวิธีชนะตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งก็เป็น สิ่งที่ยากเกินไป สำหรับมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องเดินหน้า เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเวลาให้หยุดพัก นี้คือสิ่งที่ต้องเผชิญ กับการใช้เงินเพื่อให้ถึงเป้าหมาย

Scroll to Top