ยุคทองของแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ดยุครุ่งเรืองที่สุด เรื่องของสโมสรแมนยูไนเต็ด

ยุคทองของแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ดยุครุ่งเรืองที่สุด การสร้างยุคทองของแมนยูไนเต็ด

ยุคทองของแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ดยุครุ่งเรืองที่สุด แฟนบอลหลายคนคงจะ ทราบดีว่าแมนยูไนเต็ดนั้น แมนยูล่าสุด แม้จะเป็นช่วงเวลานี้ที่ ไม่มีแชมป์หรือ แม้แต่การแย่งแชมป์ ยังทำไม่ได้นั้นแต่ความยิ่งใหญ่

และความเป็นทีมใหญ่ ของสโมสรนี้ไม่มีทางที่จะหมดไป แม้ในฤดูกาล2022/2023 สโมสรแมนยูจะ ไม่สามารถไปเล่นยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แมนยูก็ยังมีเงินซื้อนักเตะ และสามารถใช้จ่ายเงินได้แบบไม่มีปัญหา

นี้คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่า ยุคทองของแมนยูไนเต็ดนั้น ทำไว้ได้ดีเป็นอย่างมาก และแมนยูไนเต็ดจะยังเป็น สโมสรที่จะยิ่งใหญ่ไปได้ อีกหลาย10ปี ที่ในยุคของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลย ที่สามารถสร้างยุคทอง และความยิ่งใหญ่ ได้จนถึงปัจจุบัน ปัจจัยสำคัญเลยคือ การผูกสัมพันธ์ ที่แน่นแฟ้น กับแฟนบอล สิ่งนี้มันอยู่ใน DNA ของสโมสร ซึ่งเมื่อเข้าสู่ ยุคทุนนิยม ดูบอล

ข้อดีตรงนี้ ก็กลายเป็น อาวุธหลัก ที่ทีมปีศาจแดง สามารถสร้าง แบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีอิทธิพล เหนือแฟนบอล ของพวกเขาเอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรแรก ที่เปลี่ยนเรื่องราว ของฟุตบอลให้เป็น การตลาด

ที่ดึงดูดแฟนลูกหนัง จากทั่วโลกให้มาเสียเงิน ให้แก่ทีม ไม่ว่าจะเป็น การสร้างบรรยากาศสนาม ในวันที่มี การแข่งขันให้กลายเป็นสุดยอด ประสบการณ์ความบันเทิง ในสนามฟุตบอล ที่เต็มไปด้วย ความน่าตื่นตาตื่นใจ

และประสบการณ์ อันแสนพิเศษที่ จะพบไม่ได้ที่สนามอื่น สโมสรฟุตบอลแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นทั้งเบอร์1 ทั้งในและนอกสนาม เพราะไม่ใช่แค่กวาดถ้วยแชมป์ไม่หยุด หลังจากเข้าสู่ยุค 2000s

สโมสรแมนยูไนเต็ดกลายเป็น ทีมฟุตบอลที่ได้ กำไรมากที่สุด ติดต่อกันหลายปี นอกจากนี้ทีมยังทำกำไร ติดต่อกันทุกปี ระหว่างช่วงปี 1996 ถึง 2006 ทั้งที่ในช่วงเวลานั้น ค่าเฉลี่ยใน การทำธุรกิจสโมสรฟุตบอล

ในพรีเมียร์ลีกคือ การขาดทุนอย่างน้อย หลายสิบล้านปอนด์ แมนยูคืนนี้ แต่ แมนยูไนเต็ดยังคง โกยกำไรเข้าสู่ทีม อย่างไม่หยุดหย่อน นี้คือการสร้างชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักปฏิเสธ ไม่ได้ว่าแม้แต่คนไทย ทุกคนในยุคนั้นต้อง รู้จักแมนยู

ยุคทองของแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ดยุครุ่งเรืองที่สุด ความยิ่งใหญ่จากการบริหารสโมสรที่ไม่ใช่แค่เพียงคว้าแชมป์ได้

ต้องยอมรับว่าแมนยูนั้นไม่ได้ เป็นเพียงสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ทีมแมนยูมีใครบ้าง และคว้าแชมป์ได้มากมาย เพียงเท่านั้น แต่การบริหาร และชื่อของแมนยูไนเต็ด กลายเป็นการประสบความสำเร็จ ในโลกฟุตบอลอย่างแท้จริง

เพราะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้รับการยกย่องว่าเป็น ต้นแบบของ การทำธุรกิจ สโมสรฟุตบอล ทั้งการเปลี่ยน สนามกีฬาให้กลายเป็น สถานที่มอบความบันเทิง ผลงานที่ดี ทำให้ทีมได้ค่าลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสดมหาศาล

ทั้งกับฟุตบอลในประเทศ และฟุตบอลยุโรป รวมถึงทีมปีศาจแดง ยังโชว์ความหัวใส ทางการค้า ด้วยการเป็นทีมแรกๆ ที่สามารถต่อรอง อำนาจกับแบรนด์ สปอนเซอร์ต่างๆ เพื่อฟาดเงินทุนก้อนโต เข้าสโมสร

เช่น การเซ็นสัญญาเสื้อแข่งกับ Nike ในปี2002 มูลค่ารวม 300ล้านปอนด์ เป็นสัญญาที่ มีมูลค่ามากที่สุด ในเวลานั้น ก่อนจะทำลาย สถิติสัญญาด้านเสื้อ แข่งขันอีกหลายครั้ง หลังจากนั้น รวมถึงสัญญามหาศาล จากสปอนเซอร์คาดหน้าอก

สปอนเซอร์เสื้อซ้อม สปอนเซอร์สนามซ้อม และอีกมากมาย นับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าแมนยูไนเต็ด มีหัวการค้า ที่ก้าวล้ำนำสมัย ทีมฟุตบอลอื่นๆ ไปมากในยุคนั้น เครดิตสำคัญ ต้องยกให้กับ เดวิด กิลล์ ผู้บริหารชื่อดัง UFABET

ที่เข้ามาทำงาน กับทีมปีศาจแดง ตั้งแต่ปี1997 ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการเงิน และเขาก็นำ ความรู้ด้านการเงิน การตลาด เข้ามาเปลี่ยนสโมสร แห่งนี้จนกลายเป็น เบอร์1 ตัวจริงด้านธุรกิจ หากให้สรุปสั้นๆ

ความสำเร็จด้านธุรกิจของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในอดีต มาจากความสำเร็จ ในสนามแข่งขัน นำมาก่อน และพวกเขาก็มีแผนงาน ที่ดีพอจะนำ ข้อได้เปรียบเหล่านี้ มาต่อยอด ทางการค้าได้ อย่างมีประสิทธิภาพชนิด

ที่เรียกได้ว่าเข้าเป้าทุกดอก การบริหารงานของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในอดีต ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผลงาน ในสนามดูดีตลอดเวลา ตราบใดที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสุดยอด ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

ยังกุมบังเหียนอยู่ ส่วนทีมงาน นอกสนามก็หาวิธีการค้าใหม่ๆ มามัดใจแฟนๆ ได้เสมอ อย่างไรก็ตามการอำลา สถิติแมนยูล่าสุด ทีมของเฟอร์กูสัน ในปี2013 ก็ทำให้ความยิ่งใหญ่ ของแมนยูไนเต็ดไม่ เหมือนเดิมอีกต่อไป

ยุคทองของแมนยูไนเต็ด แมนยูไนเต็ดยุครุ่งเรืองที่สุด หลังจากการวางมือของเฟอร์กูสัน10ปีที่ผ่านมา

ช่วงเวลาประมาณ 10ปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ผู้จัดการ แฟนบอลปีศาจแดงต้องพบ กับความจริงแสนช้ำว่า ผลงานในสนามของพวกเขา ไม่ได้ยอดเยี่ยม เหมือนในอดีตอีกแล้ว หลังจากการอำลา ของเซอร์อเล็กซ์ ทีมไม่ได้แตะ ถ้วยพรีเมียร์ลีกอีกเลย

รวมถึงแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยเช่นกัน หรือความจริงที่ เลวร้ายกว่านั้นคือ แค่จะลุ้นติด Top4 ไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ในแต่ล่ะฤดูกาลนั้น บางปีก็ต้องมา ลุ้นกันเลือดตา แทบกระเด็น

ขณะที่ผลงาน ในสนามตกต่ำลง การบริหาร และชื่อของทีมปีศาจแดง กลับยังคง ไปได้สวยมากๆ กับผลงานนอกสนาม รายได้ของสโมสรยังคงพุ่งกระฉูด สปอนเซอร์เข้าหาทีมพอๆ กับการคว้านักเตะใหม่ แพทย์สนามฟุตบอล

แถมมูลค่าของ สโมสรก็ยังคง อยู่ในระดับสูง ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอล แต่กับทั้งวงการกีฬา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่เคยหลุด 10อันดับแรก ในฐานะทีมกีฬา ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ซึ่งจัดโดย Forbes สื่อด้านธุรกิจ และ การเงินชื่อดัง

ซึ่งเป็นหลักฐาน ที่เห็นได้โดยง่าย ว่ายุคสมัยช่วง 10ปีที่ผ่านมา สโมสรแห่งนี้ยังสามารถ สร้างผลประโยชน์ ทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง แม้ผลงานในสนาม ของทีมปีศาจแดงจะไม่ เหมือนในอดีตก็ตาม

หากจะพูดว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไม่ต้องพึ่งความสำเร็จ ในสนามเพื่อให้ สโมสรก้าวหน้าในเส้นทางธุรกิจ คงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะทีมปีศาจแดงไม่ได้ วางแผนเพียง แค่เรื่องในสนาม แต่รวมถึงเรื่องนอกสนาม ด้วยเช่นกัน

ต้นแบบการบริหารทีมของแมนยูไนเต็ดที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้รับแรงบันดารใจมาจากนิวยอร์กแยงกีส์

แมนยูไนเต็ดมีการจัดการ ทีมที่ยอดเยี่ยมในเรื่องธุรกิจ สโมสรแห่งนี้มีหน่วยงาน ของตัวเองที่แยกตัว ออกมาทำงาน อย่างชัดเจน ทั้งฝั่งที่ดูแลเรื่องสินค้า ฝั่งด้านโทรทัศน์ ฝั่งแบรนด์ต่างประเทศ ฝั่งสื่อสารกับแฟนบอล ฝ่ายโฆษณา

เรียกได้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความสามารถ ในแต่ละแขนง ตารางคะแนน แมน ยู ล่าสุด ที่จะมาคอยบริหาร จัดการให้ทีมปีศาจแดง ยังคงประสบความสำเร็จ ด้านธุรกิจและรับมือได้ กับทุกสถานการณ์ ที่เกิดขึ้น มีการศึกษาและพบว่า

สโมสรดังจากอังกฤษ ได้แรงบันดาลใจ ในการเดินเกม ด้านการค้ามา จากทีมเบสบอล ชื่อดังอย่าง นิวยอร์ก แยงกีส์ ซึ่งมีเส้นทางคล้ายๆ กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นั่นคือเคยมี ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ในยุคทองของเบสบอล

แต่ภายหลังผลงาน ร่วงหล่นไม่รุ่งเรือง เหมือนในอดีต นิวยอร์กแยงกีส์คว้าแชมป์ เวิลด์ซีรีส์ของลีกเบสบอล MLB ได้เพียงสมัยเดียว ในรอบ 21ปีหลังสุด แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะแยงกีส์ยังคงเป็นทีมเบสบอล ที่มีมูลค่าอันดับ1 ของโลก

มาอย่างยาวนาน และถ้ามองถึง ทีมกีฬาในภาพรวม แยงกีส์ไม่เคยหลุดจาก Top5 ของทีมกีฬาที่มีมูลค่าสูงสุด ของโลกเลย ซึ่งถือว่าดีกว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยซ้ำ ทั้งที่ได้แชมป์ น้อยกว่าทีมปีศาจแดง ในช่วงเวลาเดียวกัน

การประสบความสำเร็จในด้านการค้าและธุรกิจของสโมสรแมนยูไนเต็ด ที่แฟนบอลทุกคนต่างรู้ดีว่าสโมสรเน้นในเรื่องไหนมากกว่ากัน

วิธีการที่แมนยูไนเต็ด นำมาจากแยงกีส์ คือการทำอย่างไรก็ได้ ให้แบรนด์ของทีม ติดตลาดและกลายเป็น ภาพจำของคน ชนิดที่เรียกว่าหากพูดถึงฟุตบอล ก็ต้องนึกถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นทีมแรก

เราปฏิเสธไม่ได้ว่า แมนยูไนเต็ดทำสำเร็จ นี่คือสโมสรฟุตบอลที่เรียกพื้นที่ สื่อได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ก็มีแต่คนสนใจ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทรงพลังมากพอ ที่จะทำให้แฟนลูกหนัง

จำนวนมากหันมา ติดตามพวกเขา แมนยูลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะเชิงบวกหรือลบ แต่สุดท้ายแล้วในโลกธุรกิจ ถ้ามีคนให้ความสนใจมาก ก็เท่ากับเม็ดเงิน ที่มากขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า แมนยูไนเต็ดตั้งใจชัดเจน

กับการสร้างความสำเร็จ ทางการค้า จนแฟนบอลสามารถ รู้สึกว่าจริงจังมากกว่า การสร้างทีมไปคว้าแชมป์ ในเกมฟุตบอลเสียอีก นี้จึงทำให้แฟนบอลทุกคน ของแมนยูไนเต็ดเริ่มออกมา ประทวงและเรียกร้อง ให้สโมสรเปลี่ยนเจ้าของทีมและแนวทาง