ดูบอล

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก เรื่องราวของนักเตะสโมสรเล็ก แต่ฝีเท้าระดับท็อป

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก เรื่องราวของนักเตะสโมสรเล็ก นักเตะฝีเท้าดีกับทีมเล็ก

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก เรื่องราวของนักเตะสโมสรเล็ก นักฟุตบอลที่มีชื่อเสียง เรื่องราวของเหล่านักเตะ จากสโมสรเล็ก ที่มีความเก่งกาจ และเป็นตัวแบก เป็นนักเตะความหวัง ของทีมเล็ก แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ กับทีมยักษ์ใหญ่

ซึ่งหากเป็นแฟนบอล แน่นอนว่าจะต้อง รู้จักและเคยได้ยิน ถึงนักเตะที่มีฝีเท้า ในระดับที่เล่นให้กับ ทีมเล็กได้เก่งและ สามารถทำผลงานได้ดี แต่ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเทพ กับการอยู่สโมสรชั้นนำ หรือสโมสรที่มี เหล่าสตาร์อยู่ในทีมได้

โดยหากพูดถึงชื่อของ เหล่านักเตะชั้นนำในทีมเล็ก ที่มีฝีเท้าระดับเทพ ที่แฟนบอลส่วนใหญ่ รู้จักและต้องนึกถึง ชื่อของ วิลฟรีด ซาฮา ผู้แบกทุกสิ่งอย่างของสโมสร คริสตัล พาเลซ เชื่อว่าเป็นชื่อแรกที่แฟนบอลชาวไทย ดูบอล

ส่วนใหญ่รู้จักและ ต้องนึกถึงเป็นคนแรกอย่างแน่นอน แต่ยังมีนักเตะเหล่าฟอร์มเทพ จากทีมเล็กอยู่อีกมาก ไม่ว่าจะ อาเตม เบน อาร์กฟา นักเตะเทคนิค แพรวพราวที่สุด ในฝรั่งเศส, อเดล ทารับต์ เจ้าของฉายา นิวซีดาน

หรือแม้กระทั่ง เจสซี่ ลินการ์ด นักเตะที่กำลังมีสิทธิ์พา เวสต์แฮม ไปเล่นในถ้วยยุโรปครั้งแรกในรอบกว่า 20ปี ย่อมผุดขึ้นมาใน หัวของเหล่าแฟนฟุตบอลแน่นอน เพราะนักเตะเหล่านี้ เมื่ออยู่ในทีมเล็กแต่ ฟอร์มการเล่นระดับเทพ

คำตอบที่ได้คือ พวกเขาเป็นนักเตะ ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ อายุยังน้อยมาก ได้รับการคาดหมายไว้ใหญ่โต เมื่อครั้งยังลงเล่น ในระดับเยาวชน กันทั้งนั้น ซึ่งการเก่งตั้งแต่เด็ก ถือเป็นหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้ทั้งหมดที่กล่าวมา

มีทัศนคติ ที่คล้ายกันนั่นคือ ความมั่นใจ ที่สั่งสมมาเป็นระยะ เวลายาวนาน และใช้มันจนคุ้นชินเรื่องของความอันตราย จากการเก่ง ตั้งแต่เด็กถูกพูดถึงโดย เจเรมี่ พิเอ็ตต์ ที่เคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ รองแชมป์ฟุตบอล

และเคยลงเล่นใน ระดับเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันผันตัว มาเป็นโค้ชฟุตบอลใน ระดับเยาวชนและ เขียนบทความเกี่ยวกับกีฬา สำหรับเด็กและ ผู้ปกครอง ซึ่งเขาพบว่า เด็กที่เก่งเกินกว่า เพื่อนร่วมทีมมากๆ

จะมีความมั่นใจ และทัศนคติ ที่ควบคุมยากกว่าคนอื่นๆ นักเตะสูง 160 โดยเขาให้คำนิยามว่า นักเตะเด็กๆ ที่เก่งในระดับเทพส่วนใหญ่ มักจะมีความมั่นใจ และหยิ่งทรนง เพราะได้รับความคาดหวัง จากครอบครัว และผู้คนมากมาย

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก เรื่องราวของนักเตะสโมสรเล็ก ความเห็นของเจเรมี่ พิเอ็ตต์เกี่ยวกับเด็กที่เก่งตั้งแต่เด็ก

โดยเขามีความเห็น ในเรื่องของการที่นักเตะ บางคนเก่งกับทีมเล็ก   100 นักเตะที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาล มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือความมั่นใจ และฝีเท้าที่ดี และได้รับการยอมรับ มาตั้งแต่เด็กและ คาแรกเตอร์ประจำตัว ที่ทุกคนมีเหมือนกัน

คือความมั่นใจ แบบสุดขั้ว ที่บางทีอาจจะ มากเกินไป จนหลายคน บอกว่าน่าหมั่นไส้ ไม่ใช่ว่าการเก่ง แต่เด็กและเติบโต มาด้วยทัศนคติ ของการเป็นอันดับ1 มาตลอดเป็นเรื่องไม่ดี แต่การรับมือกับเด็กๆ

หรือแม้แต่คนสักคน ที่มีความเชื่อมั่น ในตัวเองสูง ต้องได้รับการดูแลที่เหมาะ ให้บททดสอบที่ยากๆ กับพวกเขา ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือแม้กระทั่งการมอบสิ่ง ที่ตอบแทนให้ แบบสมน้ำสมเนื้อ อัจฉริยะเหล่านี้

จึงสามารถประคองตัว ให้อยู่ร่วมกับ สังคมใหญ่ได้ ทัศนคติเป็นอะไร ที่ฝึกฝนและ ฝืนกันยากที่สุด มันคือ สิ่งที่ทำให้ นักเตะหลายคนเกิดอาการตัน ไปต่อได้ไม่สุดทาง เราจะลองยกตัวอย่างดังที่กล่าวมาดูก็ได้

โดยนักเตะที่เห็นภาพ ชัดที่สุดคือ อาเต็ม เบน อาร์กฟา สุดยอดมากในวัยเด็ก เขาคือเด็กนรกแถวหน้า ของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส แจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับ นิวคาสเซิล และ นีซ  แต่เมื่อเขาไปอยู่กับ เปแอสเช

ในยุคที่กำลังไล่ล่าตำแหน่ง ตัวท็อปของลีกยุโรป นักฟุตบอลที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ทัศนคติของอาร์กฟา ทำให้ตัวเขาไม่สามารถไปต่อได้ เมื่อต้องยกระดับ การแข่งขันขึ้นมา เขาไม่พอใจที่ ตัวเองเป็นตัวสำรอง จนมีปัญหากับโค้ช

และสุดท้ายตัวเอง ก็โดนปรับไปเล่น ในระดับทีมสำรอง นั่นไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาเย่อหยิ่งเกินเหตุ เบน อาร์กฟา เคยทะเลาะกับ ประธานสโมสรลียง ตั้งแต่ที่เขาอายุ 21ปี จากนั้นก็มีปัญหากับโค้ชที่ มาร์กเซย ต่อ

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก

นักเตะที่เก่งกับทีมเล็ก เรื่องราวของนักเตะสโมสรเล็ก นักกีฬาที่ดีการมีทัศนคติที่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ดีมากยิ่งขึ้น

โดยเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ หรือแม้แตาทุกคน 10 อันดับนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก การได้คนเก่งแต่ ไม่มีวินัยและ มั่ใจจนเกินไป มีทัศนคติไม่ดี ทุกสายอาชีพ การทำงานร่วมกัน ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ร่วมงานกันยาก โดยเฉพาะกับกีฬาฟุตบอล

ที่เป็นการเล่นกันเป็นทีม ร่วมถึงไม่ได้มีเพียงแค่ นักเตะในสนามเท่านั้น แต่ยังมีโค้ชและอีกมากมาย และไม่ว่าองค์กรไหน ก็ล้วนแต่ต้องการคนเก่งมาร่วมทีม เข้ามาในองค์กรทั้งนั้น แต่ความจริงที่โลกนี้ปฎิเสธไม่ได้คือ

การมากไปก็ไม่ดี เช่นเดียวกันกับ การทำงานเป็นทีม สิ่งสำคัญกว่าการรวมตัว ของคนเก่ง คือการยืดหยุ่น และให้ควาเคารพกัน ในหน้าที่ของแต่ละคน และทำหน้าที่ของตนเองออกมา ให้ดีมากที่สุด เพื่อให้ทีมทำผลงานได้สำเร็จ

มีการวิเคราะห์ข้อมูล จากการเก็บสถิติ ของ Psychological Science โดยนักวิทยาศาสตร์ทางจิตวิทยาที่ชื่อว่า Swaab และ Galinsky พวกเขาพบว่า สำหรับทีมกีฬา ไม่ว่าจะเป็นทีมบาสเกตบอล

หรือแม้กระทั่ง ทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง หากมีซูเปอร์สตาร์มากเกินไป จะเป็นอันตราย ต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ หากเปรียบให้ เห็นภาพคือเหมือนกับภาพยนตร์ สักเรื่องหนึ่ง ถ้าหนังเรื่องนั้นจะสนุกได้

จำเป็นต้องมี หลายองค์ประกอบ ที่รวมออกมาแล้วทำให้หนังเรื่องนี้ มีความกลมกล่อม คนดูรู้สึกอิ่ม ไม่มีอะไรติดค้าง เมื่อหนังจบลง ก็เหมือนกีฬาฟุตอบ ที่มีคนทำหน้าที่ ในเกมรุกยิงประตู และรับ ในการป้องกันประตู

ทีมฟุตบอลที่รวมความเป็นทีม และสร้างความสำเร็จด้วยการเล่นเป็นทีม จนได้รับการยอมรับในโลกฟุตบอล

นั้นตือทีมบาร์เซโลนา ในยุคที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ครองโลก ความสูงนักฟุตบอลไทย ว่ากันว่าพวกเขา มีนักเตะเวิลด์คลาส ในทีมทั้ง 11ตำแหน่ง แต่พวกเขาก็ ประสบความสำเร็จได้ ด้วยความเข้าใจ ในปรัชญาและ แนวทางวิธีการเล่นของทีม

แม้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า ลิโอเนล เมสซี่ คือสตาร์เบอร์1 ของทีม แต่หากดูองค์ประกอบ โดยรวมเราจะพบว่า นักเตะเวิลด์คลาสคนอื่นๆ ในทีมสามารถ ยอมรับสถานะ ดังกล่าวและ ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ทุกคนแบ่งหน้าที่ กันได้อย่างลงตัว อาทิ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ตัดเกม, ชาบี เอร์นันเดซ คุมจังหวะการเล่นของทีม, อันเดรียส อิเนียสตา สร้างสรรค์เกมรุก เป็นต้น พวกเขาไปสุดทางในตำแหน่งของตัวเอง

2สิ่งสำคัญในโลกฟุตบอล และการทำงานในโลกฟุตบอลที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

จาก 2 เหตุผลที่กล่าว มาในข้างต้น ทั้งเรื่องของทัศนคติใน แง่ของบุคคล นักฟุตบอลทีมชาติไทย หรือในแง่ของการรวมตัวกัน ของคนเก่งมากเกินไป ทำให้นักเตะที่เก่งกาจ มีแววจะเป็นสตาร์ แต่ไม่มีทัศนคติในการเล่นและ การใช้ชีวิตที่ดีพอ

กลายเป็นนักเตะ ที่โดนคัดทิ้งจากทีมใหญ่ๆ เสมอและทำให้ การเป็นนักเตะในทีมเล็ก ที่มีผู้คนคาดหวัง และองค์ประกอบต่างๆ การเป็นนักเตะทีมเล็ก แต่ฝีเท้าและ ความมั่นใจได้ ก็จะส่งผลต่อฟอร์มการเล่นอย่างแท้จริง

Scroll to Top