การยืมตัวนักเตะ สัญญายืมตัวนักฟุตบอล ธุรกิจใหม่ในโลกฟุตบอลหรือการโกง
การยืมตัวนักเตะ สัญญายืมตัวนักฟุตบอล เชื่อแฟนบอลหลายคน น่าจะเคยได้ยิน เรื่องราวเกี่ยวกับการปล่อยยืมตัว ของนักเตะสโมสรเชลซี เป็นจำนวนมากและ มีอีกหลายสโมสรที่ปล่อยนักเตะ เยาวชนของทีมให้กับสโมสรต่างๆ
ยืมไปใช้งานก่อน แลกกับการจ่ายค่าตัวนักเตะ และเงินค่ายืมจำนวนหนึ่ง ให้กับสโมสรลีกรอง และลีกอื่นๆ ที่อยากจะได้นักเตะ มีคุณภาพที่อาจจะกลายเป็นนักเตะ มีชื่อเสียงได้ยืม ไปใช้งานก่อน ที่จะมีชื่อเสียง
ซึ่งก็มีหลายสโมสรเหมือนกัน ที่ใช้ระบบแบบนี้ แต่เรื่องแบบนี้ มาดังเพราะปัญหา นักเตะ ยืมตัว เจอทีม เก่า ของคดีความของสโมสรเชลซี จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต ในโลกฟุตบอล ทำให้เชลซีโดนทั้งปรับเงิน และโดนแบนในตลาดการซื้อขายนักเตะ
ในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อ 2-3ปีที่แล้ว ทำให้เรื่องนี้มามีชื่อเสียง และที่ต้องนำกลับมา เล่าต่ออีกครั้งเพราะว่า หลายสโมสรเริ่มที่จะทำแบบเดียวกัน โดยการเริ่มมีการปล่อยนักเตะ เยาวชนจำนวนมาก ออกไปให้สโมสร ที่ชื่อชั้นรองกว่า
ได้ยืมใช้งานได้ลงสนามจริง ในลีกที่จะทำให้นักเตะเยาวชน สามารถเล่นได้แบบ ไม่ต้องกังวล เช่นในรายของ แทมมี่ อับราฮัม และ เมสัน เมาท์ โดยเฉพาะกับนักเตะอย่าง เมสัน เมาท์ ที่กลายเป็นนักเตะมีชื่อเสียง
ตกเป็นข่าวกับ นักเตะหลายสโมสรและ ถูกยกให้เป็นความหวังใหม่ ของทีมชาติอังกฤษในอนาคต รวมถึงยุคนี้อีกด้วย ที่แม้เจ้าตัวพึ่งจะอายุ 23ปีเท่านั้น แต่ฝีเท้าก็กลายเป็น ระดับท๊อปของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เกมออนไลน์
ที่ทั้งตำนานฟุตบอล โค้ชต่างๆ แม้แต่เหล่านักข่าว กูรูฟุตบอล และนักวิจารญ์ ก็ยังยกย่องและชื่นชม ฝีเท้าของนักเตะคนนี้ ว่าจะกลายเป็นนิวแลมพาลด์ คนต่อไปและ จากทรงตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่า เมาท์เป็นนักเตะ ที่ขาดไม่ได้เลย ของเชลซี
ทำให้การปล่อยนักเตะให้ยืม และเลี้ยงดูนักเตะเยาวชนเป็นจำนวนมาก และสามารถปั้นนักเตะ สัญญายืมตัวนักฟุตบอล ภาษาอังกฤษ แบบเมาท์ได้สักคน กลายเป็นช่องทาง ที่กลายเป็นได้รับความนิยม เป็นอย่างมากและ หลายสโมสรเริ่มทำตาม
ในการดึงนักเตะเยาวชน ซื้อขายกันแพงขึ้น มีการดูแลนักเตะเยาวชนอย่างดี แล้วปล่อยยืมตัวเพื่อให้ นักเตะได้ไปพัฒนาฝีเท้า ได้รับโอกาสลงเล่น หากสามารถแสดงผลงานได้ดี ทีมต้นสังกัดก็จะ เรียกตัวกลับมา เป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ต่อไป
นี้จึงถือเป็นการวินๆ ของทุกฝ่ายกับธุรกิจ ของการปล่อยตัวนักเตะให้ยืม ที่ทางต้นสังกัดก็ได้เงินส่วนหนึ่ง นักเตะก็ได้ลงสนามจริง มีการแข่งขันบ่อย ได้พัฒนาฝีเท้า สโมสรที่ยืมก็จะได้นักเตะ ฝีเท้าดีไปใช้งานในราคาที่ถูก
การยืมตัวนักเตะ สัญญายืมตัวนักฟุตบอล ประวัติของการยืมตัวนักเตะ และนักเตะคนแรก ที่มีการยืมตัวกัน
โดยเหล่าแฟนบอล ส่วนใหญ่อาจจะ ไม่เคยรู้มาก่อนว่า การยืมนักเตะด้วย การมีสัญญาหรือ การเริ่มต้น การยืมตัวนักเตะนั้น มีมาตั้งแต่ ค.ศ.1967 ที่ถือเป็นการให้ยืมกัน ของนักเตะดาวรุ่ง ของทีมเพื่อให้มีโอกาสในการลงสนาม
โดยจอห์น ด็อคเกอร์ ปีกวัย 19 ปี ของ โคเวนทรี ซิตี้ ถือเป็นนักเตะรายแรก ของโลกที่ย้ายทีม ในรูปแบบของการยืมตัว ให้กับสโมสรอื่น ได้ยืมตัวไปใช้งาน โดยถูกปล่อยไป หาประสบการณ์ กับ ทีมทอร์คีย์ ยูไนเต็ด
ทีมลีกรองในช่วงเวลานั้น แม้เขาจะลงเล่น กับต้นสังกัดชั่วคราวเพียง 4นัด แต่การย้ายทีมครั้งนี้ นักเตะเชลซี 2020 กลายเป็นแนวทางใหม่ ของสโมสร ทั่วโลกอีกหลายสิบปีถัดมา โดยประเทศที่ ยึดมั่นรูปแบบดังกล่าวจนปัจจุบัน
คือประเทศเยอรมัน โดยลีกฟุตบอลในเยอรมัน จะใช้การยืมตัวผู้เล่นกัน เนื่องจากกฏ 50+1 ในสมัยนั้น ที่บังคับให้แฟนฟุตบอล เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ในสโมสร ส่งผลให้หลายทีม ไม่มีเงินมากพอ ซื้อนักเตะตามใจอยาก
การลงทุนกับ นักเตะดาวรุ่ง จึงเป็นทิศทาง ของหลายสโมสร และไม่มีวิธีใด ที่จะฝึกฝนแข้ง รุ่นเยาว์ให้แข็งแกร่ง มากกว่าการยืมตัว เพื่อนำไปลงสนาม ใช้จริงเพราะหากเป็นทีม ลีกหลักและ สล็อตตัวผู้เล่นเต็ม แทงบอลออนไลน์
การปล่อยยืมตัวผู้เล่น จึงถือเป็นการฝึกฝน และให้ประสบการณ์ นักเตะที่ดีมากที่สุด ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ และในลีกเยอรมันยังใช้ การยืมตัวจนถึงปัจจุบัน และถือเป็นสิ่งที่ ทำกันจนถึง ปัจจุบันนี้กับการยืมตัวผู้เล่นดาวรุ่ง
การยืมตัวนักเตะ สัญญายืมตัวนักฟุตบอล สโมสรบาเยิร์นมิวนิคที่ถือเป็นต้นแบบของความสำเร็จของการปล่อยยืมผู้เล่นดาวรุ่ง
โดยทางสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ถือเป็นสโมสรฟุตบอล ที่ประสบความสำเร็จ ในการปล่อยยืมตัวผู้เล่น ยกตัวอย่างด้วย ตำนานนักเตะอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม ฟูลแบ็คระดับตำนาน ของสโมสรบาเยิร์นมิวนิค และของโลกฟุตบอลเลยก็ว่าได้
หากมีการจัดอันดับ หรือพูดถึงฟูลแบ็คระดับตำนาน ชื่อของลาห์ม มักจะต้องถูกพูดถึง อยู่เป็นประจำ โดยสมัยเขาเป็นนักเตะ เยาวชนนั้นได้ถูก ปล่อยไปค้าแข้งกับ สโมสร สตุ๊ดการ์ท เป็นเวลา 2 ฤดูกาล ในช่วงปี 2003–2005
เขาสามารถพัฒนาตัวเอง อย่างรวดเร็ว จนกลับมายึดตัวจริง ในทัพเสือใต้ ยาวนานกว่า 12ปี ซึ่งลาห์มนั้น ไม่ใช่เพียงความสำเร็จเดียว จากแนวทางนี้ นักเตะอย่าง โทนี่ โครส, ดาบิด อลาบา หรือ แซร์จ นาบรี ต่างถูก ต้นสังกัดอย่างบาเยิร์นมิวนิค ยอดขายเสื้อนักเตะ
ปล่อยไป เก็บประสบการณ์ กับเพื่อนร่วมลีก เช่น ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และ ฮอฟเฟนไฮม์ ดาวรุ่งเชลซี ปล่อยยืม ก่อนกลับคืนสู่ต้นสังกัด ในฐานะแข้งฝีมือ ดีระดับโลกที่มีชื่อเสียง ที่แฟนบอลในยุคนี้ จะต้องรู้จักกัน โดยการยืมตัว เพื่อพัฒนาฝีเท้าดาวรุ่ง
ไม่เพียงส่งผลดี แก่ต้นสังกัดนักเตะเท่านั้น แต่สโมสรที่ ยืมตัวแข้ง เหล่านี้มาใช้งาน ยืมตัว ภาษาอังกฤษ ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรก ในปีที่ โทนี่ โครส อยู่กับทีม ในช่วงฤดูกาล 2009-2010
ส่วนสโมสรฮอฟเฟนไฮม์นั้น จบอันดับ3 ในฤดูกาล 2017-2018 คว้าโควต้า ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มาครองได้ จากผลงาน 10ประตูของ แซร์จ นาบรี การย้ายทีมด้วย รูปแบบยืมตัว จึงเป็นเครื่องมือรักษาสมดุล ในโลกฟุตบอล
ทุกฝ่ายต่าง ได้ประโยชน์ จากผลงานของแข้งรุ่นเยาว์ ที่ถูกปล่อยยืมตัว แต่เมื่อวันหนึ่ง ฟุตบอลหมุนเข้าสู่โลก ทุนนิยมเต็มตัว การยืมตัว ไม่จำกัดผลประโยชน์แค่ในสนาม แต่หมายถึงมูลค่ามหาศาล ทางธุรกิจอีกด้วย
สโมสรเชลซีกับธุรกิจของการปล่อยยืมตัวผู้เล่นออกจากทีม มากมายที่ช่วยต่อยอดทีมอคาเดมี่ของสโมสรเชลซีให้มีชื่อเสียง
โดยแผนการของ ทางฝั่งเชลซี ไม่แตกต่างจากบาเยิร์นมิวนิค แต่ผลลัพธ์ ที่ได้มากลับ ตรงกันข้าม นักเตะดาวรุ่งส่วนใหญ่ ไม่สามารถ สร้างผลงานที่ดี ขณะออกไปยืมตัว และเมื่อกลับ มาสู่ต้นสังกัด
พวกเขาเหล่านี้ ไม่มีพื้นที่ลงสนาม เนื่องจากตำแหน่งตัวจริง ถูกครอบครองโดย นักเตะใหม่ เช ล ซี 2021 ผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ ที่จ่ายเงินซื้อมาแพง จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ตรงที่ หากเป็นสโมสร ที่ควบคุมการเงินเคร่งครัด
เช่นทีมฟุตบอลในเยอรมัน ย่อมปล่อย แข้งดาวรุ่งเหล่านี้ ออกจากทีม เนื่องจาก ไม่มีเงินเพียงพอ จะแบกค่าเหนื่อย ของผู้เล่นที่ไม่ใช้งาน แต่สำหรับเชลซี พวกเขาไม่มี ความจำเป็นต้อง ปล่อยแข้งเหล่านี้ ออกจากทีมด้วยซ้ำ
ด้วยทรัพยากร มหาศาลจากเจ้าของอย่าง โรมัน อบราโมวิช ที่คอยหนุนหลัง ทำให้ดาวรุ่งฝีเท้าดี ของ สโมสรเชลซีเช่น เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกซื้อมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม
เมื่อพบว่า นักเตะเหล่านี้ สอบไม่ผ่าน เชลซีส่งพวกเขา ออกไปหาประสบการณ์ราว 2-3 ฤดูกาล กับทีมนอกลีก ไม่ใช่เพื่อเตรียมพร้อมใช้งาน แต่เพื่อหากำไร และจากนักเตะชื่อที่กล่าวขึ้นมา ทุกคนกลายเป็นนักเตะชั้นนำ
แผนของเชลซีจากการซื้อดาวรุ่งราคาแพงเพื่อมาปั้นต่อ แล้วปล่อยยืมแล้วขายออกที่ประสบความสำเร็จ
โดยแผนนี้ของเชลซีนั้น นับเป็นการใช้ธุรกิจ ในการนำนักเตะ ดาวรุ่งมาปั้นขายก็ว่าได้ นักเตะ เช ล ซี ล่าสุด โดยเชลซีขาย เควิน เดอบรอยน์ด้วย ราคา 22ล้านยูโร ได้กำไร 14ล้านยูโร, ขายลูกากู 35ล้านยูโร ได้กำไร 30ล้านยูโร
และขายซาลาห์ ด้วยราคาเกือบ เท่าทุนที่ 15ล้านยูโร เห็นได้ชัดว่า การส่งผู้เล่น ออกไปยืมตัวของ เชลซี ไม่คล้ายคลึงกับ ทางบาเยิร์นมิวนิค นักเตะเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่สโมสรไม่มี ความคิดใช้งาน นักเตะเหล่านี้ตั้งแต่ต้น
การปล่อยนักเตะ ออกไปยืมตัว จึงไม่ใช่เพื่อพัฒนาฝีเท้า แต่เป็นการเพิ่ม มูลค่านักเตะในสังกัด เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่ทำให้สโมสรเชลซีมีชื่อเสียง ในเรื่องของ ชุดผู้เล่นตัวสำรอง และดาวรุ่งที่ พร้อมขึ้นแทนที่ตัวจริง