ศึกภายในสโมสรเชลซี เรื่องราวของเจ้าของทีมก่อนยุคเสี่ยหมี ผู้นำพาเชลซีขึ้นมายิ่งใหญ่ก่อนเสี่ยหมีจะซื้อ
ศึกภายในสโมสรเชลซี เรื่องราวของเจ้าของทีมก่อนยุคเสี่ยหมี เรื่องราวของเหล่าผู้บริหาร ของเชลซีที่นำไปสู่ ความรุ่งเรืองของสโมสร เชลซีในยุคก่อน เจ้าของจะเป็นโรมัน อับราโมวิชหรือที่รู้จักกัน ในฉายาของเสี่ยหมี
โดยบทความของเรานั้น จะต่อยอดจากบทความฟุตบอลเกี่ยวกับ เรื่องราวของ สโมสรเชลซีก่อนที่ จะเป็นยุคของ เสี่ยหมีที่ในยุคนี้นั้น ถือว่าเป็นยุคทองมากที่สุด กับเรื่องราวของอดีตของ สโมสรเชลซีเกี่ยวกับศึกภายในของสโมสร
ที่เหล่าแฟนบอลน่าจะเคยได้ยิน กันมาบ้างเกี่ยวกับเรื่องราวของ แมธทิว ฮาร์ดิ้งผู้พาเชลซี ขึ้นมาอยู่ระดับท๊อป ของพรีเมียร์ลีก และถือเป็นผู้ที่ทำให้ เชลซีกลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ เป็นทีมบิ๊กในลีกผู้ดีของประเทศอังกฤษ
โดยเรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวของ สโมสรเชลซีในยุคเก่าแล้ว โดยเป็นศึกภายในของ สโมสรฟุตบอลเชลซี ผู้บริหารที่แฟนบอลเชลซีรัก อย่างแมทธิว ฮาร์ดิ้งกับ เคน เบสต์ที่เคยถูกตราหน้าว่าเป็น นายทุนหน้าเลือด เจ้าของสโมสร
โดยเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ เบตส์เจ้าของสโมสร เปิดประเด็นต่อหน้าสื่อ ว่าฮาร์ดิ้งไม่เหมาะที่จะ ขับเคลื่อนสโมสรเชลซี ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่กี่วัน เบตส์ได้ส่งจดหมาย ด้วยข้อความ แกมบังคับจากตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ถึงฮาร์ดิ้งว่า
ได้เวลาเเล้ว ที่คุณจะต้องถอนสิทธิ์ จากการเป็น บอร์ดบริหารของทีม การกระทำของ คุณนำมาซึ่งความอึดอัดใจ ของโต๊ะประชุม บอร์ดบริหาร ณ เวลานั้น ฮาร์ดิ้งยังเดิน ทางไปทำธุรกิจ ที่มหานครนิวยอร์ก เว็บดูบอลสดฟรี
และหลังจาก ได้รับสารดังกล่าว เขาจึงรู้สึก อึ่งและทึ่งในเวลาเดียวกัน จากสิ่งที่เบตส์ ได้แถลง และพูดถึงความเสียหาย เชลซีล่าสุด หากยังมีเขานั่ง แท่นเป็น หนึ่งในผู้บริหารอยู่ ซึ่งทาฮาร์ดิ้งก็ชัดเจนว่า เขาจะไม่ยอมออกและ ต่อสู้เพื่อสโมสรเชลซี
เพราะฮาร์ดิ้งนั้น รักและทำเพื่อสโมสรเชลซี และหวังอยากให้สโมสรเชลศี กลายเป็นทีมใหญ่ ซึ่งตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ การบริหารและการทุ่มเม็ดเงิน ของฮาร์ดิ้ง ก็แสดงผลลัพธ์ที่ดี เกี่ยวกับสโมสรเชลซี จึงมีแฟนบอลสนับสนุนเขาเป็นจำนวนมาก
ศึกภายในสโมสรเชลซี เรื่องราวของเจ้าของทีมก่อนยุคเสี่ยหมี เรื่องราวของศึกภายในจากความคิดเพื่อสโมสร
แม้ว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ฮาร์ดิ้งจะเหมือนมีแฟนบอล จำนวนมากที่ให้การสนับสนุนและ พร้อมทำเพื่อสโมสรเชลซี แต่ในมุมมองของเบสต์และแผนระยะยาวของสโมสร ที่มองมาที่สโมสร ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด
เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องราวนี้หรือ ศึกภายในของสโมสรเชลซีครั้งนี้นั้น เชลซีนักเตะ 2021 เกิดจากการรักสโมสรและทำเพื่อสโมสร เพราะศึกภายในครั้งนี้นั้น เป็นเรื่องจากการมอง การบริหารเชลซี จากคนละมุมมองเพียงเท่านั้น
โดยทางฮาร์ดิ้ง มองว่าอยากให้ทีม เก่งประสบความสำเร็จก็ต้องซื้อสิ และในเมื่อมีเงินทำไมจะทำไม่ได้ เชลซี นักเตะ ซึ่งเป็นวิธีที่เห็นผลแบบ แน่นอนที่สามารถประสบความสำเร็จได้ไว ขณะที่ ตัวท่งฝั่งของเบตส์ ก็ติดเบรกทุกประเด็น
เพราเขามองว่า นี่คือการกระทำ ที่หวังผลได้แค่ ในระยะสั้น สโมสรจะต้องมี รายได้ที่ครบวงจร ทั้งจากการขายสินค้า ลิขสิทธิ์ของสโมสร, การสร้างโรงแรม และร้านอาหาร ว่าง่ายๆ ก็คือการสร้างแบรนด์นอกสนามนั่นเอง ถึงจะยั่งยืน
เมื่อต่างฝ่ายต่างเชื่อ กันคนละทฤษฎี ฮาร์ดิ้งผู้ร่ำรวย จึงคิดจะเดินเกม โดยการซื้อสโมสร แต่เบตส์ เองก็ทันเกมเหมือนกัน เขายืนยันว่าหากอยากจะได้ เชลซีก็ต้อง ยื่นข้อเสนอก้อนโต ระดับ 60ล้านปอนด์ขึ้นไป แทงบอล
แม้ว่าทางฮาร์ดิ้ง จะร่ำรวย ทว่าก็ยังไม่ถึง ในระดับที่เหลือจนสามารถ เปย์ได้ทุกอย่าง เหมือนกับที่ แจ็ค วอล์คเกอร์ ซื้อและสร้าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยเงินสด 400ล้านปอนด์ ดังนั้นการเป็นเจ้าของเพียงหนึ่งเดียว
ก็กลายเป็นแค่ฝันค้าง และตำแหน่งของเขา ก็ตันที่รองประธานสโมสรเท่านั้น ฮาร์ดิงตระหนักดีว่า หากเขายังไม่ยอมแพ้ และพยายามที่จะ กลายเป็นเจ้าของทีม ได้สักวันต้องมี วันสำเร็จแน่ เมื่อแฟนบอลเปิดใจ เชียร์เขาอย่างชัดเจน
ศึกภายในสโมสรเชลซี เรื่องราวของเจ้าของทีมก่อนยุคเสี่ยหมี กับการตัดจบศึกสงครามภายในทั้งที่กำลังถึงจุดพีค
โเยเชื่อว่ามีแฟนบอลหลายคน น่าจะเคยได้ยินชื่อของฮาร์ดิ้ง กับการเป็นผู้บริหารและ ลงทุนกับสโมสรเพื่อ ความก้าวหน้าของเชลซี จนกลายเป็นทีมใหญ่ ก่อนเสี่ยหมีโรมัน อับราโมวิชจะเข้า มาซื้อทีมด้วยซ้ำไป
โดยหลังจากเปิดศึกสงครามภายใน เชลซีถูกแบ่งการบริหาร ออกเป็น2ส่วน เพราะต้องยอมรับว่า เชลซีวันนี้ แม้ความเห็น จะไม่ตรงกันจนเป็น คลื่นใต้น้ำในห้อง ประชุมของบอร์ดบริหาร ทว่าการจัดการแบบแกครึ่งหนึ่งข้าครึ่งหนึ่งของ
เบตส์และฮาร์ดิ้ง ก็ถือว่าดำเนินต่อไปได้ดี เชลซีกลายเป็นทีม ที่มีมูลค่าในตลาดสูง ขึ้นทุกปีแถมยังเข้าใกล้ความสำเร็จ แรกไปเรื่อยๆ จากการแข่งขันใน การทำผลงานและ บริหารเชลซีเพื่อให้ดีขึ้น และเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ นักฟุตบอลLGBTQ+
นี่คือสิ่งที่ฮาร์ดิ้ง อยากจะเห็นมากที่สุด การเป็นแชมป์ในฐานะ ส่วนหนึ่งของสโมสร คือสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาตั้งแต่เกิด ทว่ากลับมีเรื่องหนึ่ง เกิดขึ้นเสียก่อน นั้นคือเหตุการณ์ที่ไม่มีใคร อยากจะให้เกิดกับ เหตุการณ์ฮอร์โดยสารตก
เฮลิคอปเตอร์ของ ฮาร์ดิ้งในวันนั้น มีผู้โดยสารสี่คนได้แก่ โทนี่ เบอร์ดริดจ์ นักธุรกิจชื่อดังวัย 39 ปี, เรย์มอนด์ ดีน วัย 43, จอห์น บอลดี้ นักข่าววัย 47 ปี และตัวเขา บินขึ้นเหนือท้องฟ้า ไม่นานก็เกิดเหตุขัดข้องขึ้น จนทำให้เครื่องบินตก
เรื่องราวการเสียชีวิต จากเหตุเฮลิคอปเตอร์ ภายใต้ช่วงเวลา ที่คลุมเครือระหว่าง การแย่งอำนาจกันของทั้งสองฝั่ง พรีเมียร์ลีก รวมถึงหลักฐานที่ ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า เป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ทำให้เลี่ยงไม่ได้เลยกับเรื่องที่แฟนเชลซีบางส่วน
รวมถึงบุคคล ใกล้ชิดของทั้งสอง อย่าง เกรแฮม พาร์ ผู้บริหารระดับสูงของ เครือแฟรนไชส์ร้านฟิชแอนด์ชิป แฮร์รี่ แรมสเดนส์ จะอดคิดไม่ได้ ว่าเคน เบตส์เกี่ยวข้อง กับเหตุการณ์นี้ และอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ จนเป็นข่าวใหญ่โต
หลังจากการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด ต่างสรุปตรงกันว่าเหตุครั้งนี้เกิดจากประสบการณ์ของตัวนักบิน
โดยทางเบตส์นั้น อาจจะเป็นคนปากร้าย แต่ครั้งหนึ่งเขากับฮาร์ดิ้ง ก็เกื้อกูลกัน ในฐานะหุ้นส่วน และทำให้เชลซี ที่เป็นของส่วนรวม เดินทางไปข้างหน้า และเมื่อการสอบสวน ไม่สามารถหาหลักฐานเชื่อมโยงได้ ที่สุดแล้วเขาก็คือผู้บริสุทธิ์
และคนผิดกลาย เป็นบริษัทการบิน ที่ต้องโดนฟ้องร้อง ค่าเสียหายแทน สิ่งที่ทุกคนสงสัย ลิเวอร์พูล ในตัวของประธานเฒ่า ถูกพับเก็บเข้าลิ้นชัก ไปเมื่อการสอบสวน ในภายหลังและ กล่องดำในเครื่องได้เฉลยทั้งหมดว่า
ตัวของกอสส์นักบิน อาจจะเคยเป็น นักกองทัพมาก่อน แต่ก็ไม่ได้รับการฝึกบิน ในสภาพอากาศ ที่ย่ำแย่ขนาดนี้ และอีกหนึ่งเหตุผล คือตัวนักบิน เชื่อเซนส์และ ประสบการณ์ของตัวเอง มากเกินไปกว่าที่จะเชื่อ สิ่งที่บอกบนหน้า ปัดเฮลิคอปเตอร์
ความฝันของฮาร์ดิ้งกับเชลซีที่อยากเห็นสโมสรรักชูถ้วยแชมป์สักครั้ง
การจากไปของ ฮาร์ดิ้งคือเรื่องน่าเศร้า เขาลงทุนลงแรง ไปมากมายทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทีมรัก ได้ชูถ้วยแชมป์ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ทว่ามันเกิดขึ้นหลังจากเขาจากโลกนี้ไปเพียง 7เดือนเท่านั้น เชลซีสามารถ คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ
และเป็นแชมป์แรก ในรอบ 17ปีที่แฟนบอล รอคอย มันคือแชมป์ โค้ชเชลซ๊ ที่ปลดแอกความทรมาน กับสถานะทีมตัวประกอบ ของลอนดอน เรื่องนี้ทั้งแฟนบอลและนักเตะทุกคนในทีมเชลซี เวลานั้นต่างให้เครดิตกับฮาร์ดิ้ง