ฟุตบอลสกอตแลนด์ ฟุตบอลของสหราชอณาจักร ความรู้สึกของชาวสกอตแลนด์

ฟุตบอลสกอตแลนด์ ฟุตบอลของสหราชอณาจักร ความเกลียดชังที่แสดงออกมาทางฟุตบอล

ฟุตบอลสกอตแลนด์ ฟุตบอลของสหราชอณาจักร สกอตแลนด์พรีเมียร์ลีก กับเรื่องราวน่าสนใจ ในโลกฟุตบอลของ ประเทศสกอต์แลนด์ ต่ออังกฤษในเรื่องของฟุตบอล และความรู้สึกเรื่องราว ของการรวมเป็นสหราชอาณาจักร

และการเติบโต การแยกกันของ สหราชอาณาจักรระหว่าง ประเทศสกอต์แลนด์ และประเทศอังกฤษ กับเหตุการณ์ใหญ่ เหตุการณ์ในโลกฟุตบอล ที่เคยเกิดขึ้น เกี่ยวกับแฟนบอลสกอต์แลนด์

ที่มาพังสนามเวมบลีย์ หลังชนะอังกฤษใน ศึกฟุตบอลในตอนนั้น ว่าเกิดอะไรขึ้น โดยย้อนไปถึงความเกลียดชัง ของชาวสกอต์แลนด์ และชาวอังกฤษนั้น อาจจะต้องย้อน เวลากับไปเป็น พันปีเลยด้วยซ้ำ ดูซีรี่ย์

เพราะความเกลียดชัง ของ2ประเทศนี้นั้น ถูกแสดงออกมา แม้จะอยู่ภายใต้ การปกครองของสหราชอาณาจักร แต่ชาวอังกฤษ และชาวสกอตแลนด์ ถือเป็นสองชาติที่ แสดงความชิงชังต่อกันและกัน

มาตั้งแต่ก่อนโลก จะรู้จักกับกีฬาฟุตบอลซะอีก การแบ่งแยกดินแดน ของทั้งสองฝ่าย เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.122 หลังอาณาจักรโรมัน บุกยึดครองเกาะบริเตนใหญ่ และได้เข้าปกครองชาวอังกฤษที่อาศัยทางตอนใต้

แต่ไม่สามารถ ควบคุมชาวสกอตแลนด์ ซึ่งมีอำนาจทาง ตอนเหนือของเกาะ จักรพรรดิฮาดริอานุส กษัตริย์แห่งอาณาจักรโรมัน จึงมีคำสั่งให้สร้าง กำแพงฮาดรีอานุส เพื่อแบ่งแยกเขตแดนของอังกฤษจากสกอตแลนด์

และใช้เป็น เครื่องป้องกันคนเถื่อน จากแดนเหนือ ไม่ให้เข้ามารุกราน ดินแดนทางตอนใต้ พอกำแพงฮาดรีอานุสถูกสร้าง ชาวอังกฤษมองว่า สกอต์แลนด์เป็นพวก คนเถื่อนแดนเถื่อน จากทางแดนเหนือ

ส่วนชาวสกอตแลนด์ก็ มองอังกฤษเป็นพวกขูดเลือดขูดเหนือ ทีมชาติสกอตแลนด์ ล่าสุด เพราะประตูกำแพง ถือเป็นด่านศุลกากร มีการเก็บภาษีสินค้า จากทางคนฝั่งสกอตแลนด์ เพื่อสร้างความมั่งคั่ง แก่อาณาจักรโรมันบริเตน

อังกฤษและสกอตแลนด์ เป็นอิสระต่อกันและกัน จนกระทั่ง ปีค.ศ.1296 เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ ยกทัพโจมตีอาณาจักรสกอตแลนด์ ก่อนบีบบังคับให้ราชาจอห์นแห่งสกอตแลนด์ สละราชสมบัติ

ฟุตบอลสกอตแลนด์ ฟุตบอลของสหราชอณาจักร อังกฤษเข้ายึดครองสกอต์แลนด์และความเป็นศัตรูตั้งแต่1000ปีก่อน

หลังจากการสร้างกำแพง สกอตแลนด์ แชมป์ชิพ และไม่ถูกกันนับตั้งแต่ ช่วงปีค.ศ.122 โดยประมาณ ทางอังกฤษก็สามารถ ชนะสงครามครอบครอง ดินแดนสกอต์แลนด์ได้ โดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่1 จึงแต่งตั้งพระองค์ขึ้นเป็น ผู้ปราบสกอต

หลังจากนั้นทั้งสองฝ่าย ไม่เคยทำสงคราม กันอีก จนถึงปีค.ศ.1512 พระเจ้าเจมส์ที่ 4 แห่งสกอตแลนด์ ทรงยกทัพบุก อาณาจักรอังกฤษ ในช่วงที่ พระเจ้าเฮนรีที่8 แห่งอังกฤษ ทรงยกทัพบุกโจมตี ฝรั่งเศสอีกทอดหนึ่ง

การฉวยโอกาส บุกโจมตีอังกฤษ ของสกอตแลนด์ครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ แถมผลลัพธ์ ยังออกมาย่ำแย่ เกิดคาด เพราะนอกจากจะ ไม่ชนะแล้ว พระเจ้าเจมส์ที่ 4 แห่งสกอตแลนด์ UFABACCARAT

ยังสวรรคต ในการต่อสู้ ที่ทุ่งโฟลดเดน ส่งผลให้สงครามครั้งนี้ ยุติลงอย่างรวดเร็ว อังกฤษและ สกอตแลนด์ทำสงคราม กันอีกหลายครั้ง แต่โชคชะตาของ สองอาณาจักรเปลี่ยนไป ในปีค.ศ.1603

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ สิ้นพระชนม์ โดยไม่มีรัชทายาท เนื่องจากถือตนเป็น ผู้ทรงพรหมจรรย์ นำมาสู่จุดสิ้นสุด ของราชวงศ์ทิวดอร์ บัลลังก์ของอาณาจักรอังกฤษ

จึงถูกส่งต่อไปยัง พระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ ทีมชาติสกอตแลนด์ 2021 ซึ่งสืบเชื้อสายห่าง ๆ จากราชวงศ์ทิวดอร์ พระองค์จึงเสวยราชย์เป็น พระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ และเป็นกษัตริย์องค์แรกที่สามารถรวมรวมราชบัลลังก์

แห่งสกอตแลนด์ อังกฤษและไอร์แลนด์ เข้าด้วยกัน อังกฤษและ สกอตแลนด์ จึงอยู่ภายใต้การปกครอง ของกษัตริย์องค์เดียว นับจากนั้น แต่ราชบัลลังก์ของสกอตแลนด์ ยังคงแยกจากราชบัลลังก์แห่งอังกฤษ

ส่งผลให้อังกฤษ และสกอตแลนด์ยังคง ดำรงสถานะเป็นรัฐอธิปไตย กระทั่งปีค.ศ.1707 ภายใต้รัชสมัยของของแอนน์ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งบริเตนใหญ่ ราชอาณาจักรสกอตแลนด์ และราชอาณาจักรอังกฤษ

รวมกันเป็น ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ภายใต้พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ.1707 ส่งผลให้ความพยายาม ที่จะรวมสองประเทศเป็นหนึ่ง ซึ่งดำเนินยาวนานกว่า 100ปี ประสบผลสำเร็จ และรวมเป็น 1เดียวกันได้

ฟุตบอลสกอตแลนด์ ฟุตบอลของสหราชอณาจักร เรื่องราวของความเกลียดชังของชาวสกอตแลนด์ต่ออังกฤษ

ถึงจะอยู่ภายใต้ ธงชาติเดียวกัน และกษัตริย์องค์เดียวกัน มานานกว่า 300ปี สก็อตแลนด์ ลีก 1 แต่ความชิงชัง ที่ชาวสกอตแลนด์ มีต่อชาวอังกฤษ ไม่ได้ลดน้อยลงไปแม้แต่น้อย Trainspotting ภาพยนตร์ในปี 1996

ที่บอกเล่าเรื่องราว วัยรุ่นขี้ยา ในนครเอดินเบอระ เมืองหลวงของสกอตแลนด์ มีประโยคของตัวละคร ที่กล่าวความน้อยเหนือต่ำใจ ที่เกิดมาเป็นชาวสกอตแลนด์ ฉากนี้ในภาพยนตร์เรื่อง Trainspotting

แสดงให้เห็นถึง ความเกลียดชังที่ ชาวสกอตมีต่อชาวอังกฤษ และความเจ็บปวด ในการเป็นส่วนหนึ่ง ของสหราชอาณาจักร ซึ่งในสายตาของชาวสกอตนั้น ไม่แตกต่างจาก การตกเป็นเมืองขึ้น ของชาวอังกฤษ ฟุตบอลทีมชาติโครเอเชีย

เว็บไซต์ History กล่าวว่า กระแสชาตินิยม กลับมาสู่ชาติ ในสหราชอาณาจักร หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นช่วงเวลา เดียวกับที่กีฬาฟุตบอล กลับมาเป็นที่นิยม ในอังกฤษ และสกอตแลนด์อีกครั้ง

โดยเฉพาะในหมู่ ชนชั้นแรงงาน ในยุคที่สงคราม ไม่เป็นที่ยอมรับ อีกต่อไป กีฬาฟุตบอลกลายเป็น สมรภูมิตัวแทน ระหว่างสองชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสายตาของ ชาวสกอตที่มองว่า เกมลูกหนังเป็น โอกาสเดียว

ที่จะช่วยให้พวกเขา มีชัยเหนือเหนือ ชาวอังกฤษเสียที และเป็นกีฬาฟุตบอล สำหรับประชาชน ชนชั้นแรงงานของสกอตแลนด์ ที่มองกีฬาฟุตบอลกลาย เป็นสัญลักษณ์ของ การต่อสู้และ สงครามของ 2ประเทศ

ศึกฟุตบอลของสกอตแลนด์และอังกฤษที่ เป็นเหมือนการต่อสู้ที่มากกว่า ฟุตบอลของทั้ง2ชาติ

แนวคิดชาติ นิยมสกอตแลนด์ กลายเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้าน ใกล้เรือนเคียงอย่าง ผลบอลสกอตแลนด์ล่าสุด อังกฤษกลายเป็น คู่ปรับอันดับหนึ่ง ของฟุตบอลแดนตาร์ตัน ชัยชนะของทีมชาติสกอตแลนด์ เหนือทีมชาติอังกฤษในเกมลูกหนัง

จึงมีความหมาย มากกว่าที่ใคร จะเข้าใจ เห็นได้ชัดจาก การแข่งขันเมื่อปีค.ศ.1977 ที่ขุนพลตาร์ตันสามารถ เอาชนะทัพสิงโตคำราม 2-1 ในการแข่งขัน British Home Championship ที่สนามเวมบลีย์

ชัยชนะในวันนั้น นำมาสู่เหตุการณ์วุ่นวาย ที่เรียกว่า Wembley pitch invasion เหตุการณ์สำคัญในโลกฟุตบอล เมื่อแฟนบอลชาวสกอตนับหมื่น บุกลงสนามเวมบลีย์ ด้วยสภาพเมาเละเทะ แบบที่ตำรวจอังกฤษ ได้แต่ยืนมอง

เหตุการณ์ของWembley pitch invasionที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ลูกหนัง

โดยในตอนนั้น ชาวสกอตแลนด์พวกเขา ฉลองสุดเหวี่ยง จนลุกลามไป ผลบอลสก็อตแลนด์ ลีก1วันนี้ ถึงขั้นทำลายข้าวของ แฟนบอลจำนวนหนึ่ง ขุดพื้นสนามเวมบลีย์ เป็นของที่ระลึกกลับบ้าน แต่แฟนบอลอีกส่วนไปไกลกว่านั้น

พวกเขาจงใจพังประตู ฟุตบอลในสนาม เพื่อหวังแบกคานประตูกลับบ้าน เหตุการณ์ในวันนั้นถือ เป็นจุดเริ่มต้น ธรรมเนียมการวิ่ง ลงสนามของแฟนบอลทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีให้เห็นกัน แทบทุกปี เพราะอังกฤษ และสกอตแลนด์

จะจัดเกมกระชับมิตร กันปีละครั้ง กระทั่งปี 1989 หลังโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ ความรุนแรงในฟุตบอลอังกฤ ษกลายเป็นประเด็นใหญ่ ในสังคม ส่งผลให้เกมกระชับมิตร ระหว่างอังกฤษ และสกอตแลนด์ ถูกยกเลิกไป

เกมระหว่าง อังกฤษกับสกอตแลนด์ จึงกลายเป็ นฟุตบอลที่เจอกันนานๆ ครั้ง ในช่วงหลายปีหลัง แต่ทุกครั้งที่เจอกัน ความเข้มข้นของพวกเขาไม่เคยเปลี่ยน และมีการต่อสู้กันที่ ประชาชนทั้ง2ชาติ ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร