ฟุตบอลไทย ที่สุดแห่งปี 2566

ฟุตบอลไทย
ฟุตบอลไทย

เจตนาของบทความ

ในบทความนี้เป็นการพูดถึงเรื่องราวแวดวงกีฬา ฟุตบอลไทย กับเหตุการณ์ต่างๆในวงการฟุตบอลไทย ที่เกิดในปี 2566 มีทั้งเรื่องที่ดี กับบางเรื่องที่ไม่ดี และส่งผลให้วงการ ฟุตบอล ไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง และกลายเป็นบทเรียนสำหรับฟุตบอลไทย ซึ่งในบทความนี้เป็นเหมือนการรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ที่ชอบชอบฟุตบอลไทย หรือติดตามได้เข้ามาอ่านกัน

เกี่ยวกับฉัน

ฉันเป็นหนึ่งคนที่ชื่นชอบ และให้ความสนใจ รวมถึงติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแวงวงกีฬาฟุตบอลไทยมาอย่างต่อเนื่อง และได้เห็น รับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆขอ’ ฟุตบอลไทย ที่เกิดขึ้นในตลอดปีนี้ ฉันจึงได้รวบรวมเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าสนใจในวงการฟุตบอลไทย มาอยู่ในบทความนี้ เป็นเหมือนภาพรวมของวงการฟุตบอลไทยที่ฉันสนใจ และเป็นแฟนคลับคนหนึ่ง

ฟุตบอลไทย2

ฟุตบอลไทย ช้างศึก แพ้ จอร์เจีย 0-8 มากที่สุดในประวัติศาสตร์

“ใครไม่อาย ผมอาย” ที่มาของคำพูดนี้มาจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬา ฟุตบอลไทย แห่งประเทศไทย ที่เคยพูไว้ตอนที่ นักบอลไทย ทีมชาติไทย ได้ไปแข่งขัน ฟุตบอล โลกรอบคัดเลือกโซน เอเชีย และแพ้ให้กับทีมชาติญี่ปุ่น 0-4 ซึ่งตอนนั้นเป็นยุคที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นคนคุม ทีมชาติไทย และมาในครั้งนี้ ที่นับเป็นสถิติการแข่งขันของนักฟุตบอล ทีมชาติไทย ที่พ่ายแพ้ต่อคู่แข่งมากที่สุดที่เคยมีมา ในนัดแรกของโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ในเดือน ต.ค.66 ที่ทีมชาติไทย พ่ายให้กับจอร์เจีย 0-8 

ทำให้เกิดการตั้งคำถามจากบรรดาแฟนบอล ทีมชาติไทย ว่า การบริการจัดการของสมาคม ฟุตบอล มีความเป็นมืออาชีพไหม รวมถึงผู้ใหญ่ในวงการ ฟุตบอล ด้วยเพราะนัดที่เตะอุ่นเครื่องในครั้งนี้ ขาด นักบอลไทย ตัวหลัก ทีมชาติไทย ไปร่วมการแข่งขัน

นัดชิง “ซีเกมส์” นักบอลไทย – อินโด เกิดเหตุวิวาทอย่างรุนแรง

นักบอลไทย ทีมชาติไทย เข้าร่วมแข่งนัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2023 ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย โดยมี “โค้ชหระ” อิสระ สีทะโร ้ป็นผู้ดูแล และควบคุมทีมช้างศึกชุดเล็ก ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ ช้างศึกชุดเล็ก ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเป็นอย่างมาก จนสามารถผ่านรอบแบ่งกลุ่มชนิดไม่ติดขัดใดๆ จนหลายๆคนก็วางใจ และคิดว่าช้างศึกชุดเล็กนี้ มีลุ้นแชมป์ซีเกมส์ได้อย่างตั้งใจ

แต่ก็มาเกิเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อทีมงานและ นักฟุตบอลมีการทะเลาะวิวาทกันกับ นักฟุตบอลและทีมงานของอินโดนีเซีย ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-5 ประตู รอบนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ นักบอลไทย ได้แค่ที 2 เหรียญเงิน โดยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงของ ทีมชาติไทย ที่ต้องนำมาแก้ไข เรียนรู้ และพัฒนาวงการ ฟุตบอลไทย กันต่อไป

“ ฟุตบอล ชิงแชมป์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)รอบชิงชนะเลิศระหว่างอินโดนีเซียและไทยกลายเป็นการแข่งขันมวยไทยเมื่อวานนี้ เมื่อไทยทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง แต่อินโดนีเซียกลับมีชัยชนะเหนือทีมที่ยิงเพิ่มอีกสามประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษเพื่อคว้า เหรียญรางวัล ฟุตบอล ชายในซีเกมส์ครั้งแรก ในรอบ 32 ปีด้วยชัยชนะ 5-2”[1]

 

ฟุตบอลไทย4

 “เจ” ชนาธิป นักบอลไทย กลับสู่อ้อมกอดของไทยลีก ด้วยค่าตัว 70 ล้านบาท

“เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลาง ทีมชาติไทย วัย 30 ปี ที่ได้ออกไปหาประสบการณ์ดด้าน ฟุตบอล ในสนามเจลีกนานกว่า 7 ปี กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ เจ ได้สร้างผลงานที่ดีให้ลีก รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมเจลีก และหลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปร่วมกับทีมใหญ่อย่าง คาวาซากิ ฟรอนตาเล กับค่าตัวค่าตัว 100 ล้านบาท แต่ เจ ไม่สามารถทำผลงานให้น่าพอใจได้ ผลงานออกมาไม่ดี ทำให้เค้าถูกลดลงไปเป็นตัวสำรอง ในช่วงระยะหลัง

หลังจากมีกระแสข่างออกมาอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้าย “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ตัดสินใจ ย้ายกลับมาสู่ไทยลีก และร่วมงานกับ ทีม บีจี ปทุมยูไนเต็ด กับค่าตัวอยู่ที่ 70 ล้านบาท พร้อมค่าเหนื่อยเดือนละเกือบ 2 ล้านบาท

“ชนาธิป สรงกระสินธ์ กล่าวถึงการกลับมาของ เจลีก ด้วยความเต็มใจที่อุทิศตนให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ว่า “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลงทุนครั้งสำคัญในตัวผม และผมเชื่อว่ามันยุติธรรมที่จะมุ่งความสนใจไปที่ความสำเร็จของทีมมากกว่า กำลังคิดที่จะกลับคืนสู่เจลีก ผมมุ่งมั่นที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อบีจี ปทุม ยูไนเต็ด”[2]

 

ฟุตบอลไทย5

ไทยลีก เข้าสู่ยุคมูลค่าลิขสิทธิ์ตกต่ำ ในวงการ ฟุตบอล

อีกเรื่องที่ยังมีการพูดคุย วิพากวิจารณ์กันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในบรรดาคอบอล คือ มูลค่าของศึก ฟุตบอลไทย ลีกของไทย ได้ผลสรุปเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ฟุตบอล ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023/24 สโมสรทั้ง 16 ทีม จะมีการถ่ายทอดอาจจะเป็นทางสโมสร หรืออีกทางคือนำไปเผยแพร่ เพื่อสนับสนุนสโมสรให้มีรายได้ เพราะก่อนหน้านี้ มีผู้ยื่นประมูล ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ฟุตบอล ในราคา 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งฉันได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บ https://www.bangkokpost.com/sports/2600631/poor-response-for-thai-league-broadcasting-rights-deal ที่ได้พูดถึง กระแสตอบรับไม่ดีต่อข้อตกลงลิขสิทธิ์การถ่ายทอดไทยลีก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) กล่าวว่าลิขสิทธิ์การออกอากาศไทยลีกดึงดูดการเสนอราคาเพียงประมาณ 50 ล้านบาท

กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริษัท ไทยลีก บอกกับหัวหน้าไทยลีก 1 ในระหว่างการประชุมว่า การเสนอราคา 50 ล้านบาทนั้นต่ำกว่าเป้าหมายของ FAT มาก 

AIS เซ็นสัญญา 2 ปีกับ FAT สิ้นสุดปีนี้ โดยบริษัทจ่ายค่า FAT ประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี ในช่วงจุดสูงสุด FAT ได้รับรายงานว่าได้รับลิขสิทธิ์การออกอากาศมากกว่าหนึ่งพันล้านบาท

ด้วยการเสนอราคาที่ต่ำเช่นนี้ จึงมีการเสนอในการประชุมเมื่อวันอังคารว่า 16 สโมสรไทยลีก 1 ร่วมกันจัดการลิขสิทธิ์เชิงพาณิชย์และการออกอากาศของตนเอง

ซึ่งถ้าเทียบกับเมื่อก่อน ในปี 2011 กลุ่มทรู ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก 3 ฤดูกาล ในฤดูกาล 2011 – 2013  มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท และได้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ฟุตบอล อีก 4 รายการ คือ ไทยลีก1, ลีก1, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ 3 ฤดูกาลหรือ 2014-2016 และมีกลุ่มสยามสปอร์ตเป็นผู้รับผิดชอบผลประโยชน์ มูลค่า 1,800 ล้านบาท พูดได้ว่า “ลิขสิทธิ์ไทยลีก” พุ่งอยู่ในระดับหลักพันล้านบาท

และในปี 2015 กลุ่มทรูได้ซื้อสัญญาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดอีกครั้ง มูลค่ากว่า 4,200 ล้านบาท รวม 4 ฤดูกาล 2017-2020 โดยครอบคลุมการแข่งขัน 4 รายการ

ในปี 2021 /2022 เอไอเอส ได้ซื้อลิขสิทธิ์ราว 800 ล้านบาท และเอไอเอส ได้เผยถึงยอดวิว 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มียอดคนดูกว่า 11.66 ล้านคน และยอดวิวรวมกว่า 1,000 ล้านวิว 

แต่ถึงแม้ว่ายอดวิวการดูจะสูง แต่เในปีนี้ที่เข้าสู่ฤดูกาล 2023/2024 กลับมีผู้ประมูลเพียงแค่ 50 ล้านบาทต่อฤดู ส่งผลให้สมาคมฟุตบอลฯ ได้มอบลิขสิทธิ์ให้สโมสร ไทยลีก 1 ทั้ง 16 ทีม จำนไปถ่ายทอดในช่องของสโมสร หรือจะนำไปเผยแพร่เพื่อสร้างรายได้เพื่อสนับสนุนสโมสรตามเงื่อนไขที่สมาคมได้กำหนดไว้แทน

ฟุตบอลไทย6

“มาดามแป้ง” ประกาศอย่างเป็นทางการแยกทาง มาโน โพลกิ้ง และตั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ ทำหน้าที่แทนทันที

มาโน โพลกิง ได้เป็นผู้ฝึกสอน และคุม ทีมชาติไทย มาร่วม 2 ปี ตั้งแต่ปลายปี 2021 ถึงปลายปี 2023 ที่ได้สร้างผลงานด้วยการพา นักบอลไทย คว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2 สมัย แต่เมื่อมาถึงรอบคัดเลือก การแข่งขันฟุตบอลโลก ที่เป็นรายการการแข่งขันที่ใหญ่ ทำให้เหล่าบรรดาแฟนบอลชาวไทย ต่างตั้งความหวังไว้อย่างมาก 

โดย นักบอลไทย อยู่ในกรุ๊ป C ร่วมกับ เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ การแข่งขันนัดแรก เปิดสนามราชมังคลากีฬาสถานรับทีมชาติจีน ซึ่งก็มีความหวังว่า นักบอลไทย จะสามารถคว้า 3 แต้ม ในเกมนี้ได้อย่างแน่นอน จึงได้เรียกนักเตะชุดใหญ่มาร่วมทีมหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา สโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยม, เอเลียส ดอเลาะ จากสโมสรบาหลี ยูไนเต็ด ในลีกาซาตูของประเทศอินโดนีเซีย, สุภโชค สารชาติ จาก สโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ในเจลีก 

รวมไปถึง มีนักเตะที่กำลังมาแรง สร้างผลงานได้ดีอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา สโมสรอุราวะ เรดส์ แห่งศึกเจลีก, และนักเตะขวัญใจชาวไทยตลอดกาลอย่าง เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จาก บีจีปทุม ยูไนเต็ด และ ธีราทร บุญมาทัน จาก สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรียกได้ว่า จัดมาแบบ  “ฟูลทีม” แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง และผิดคาดมาก เพราะนักบอลไทย พ่ายแพ้ให้กับจีนไป 1-2 ประตู 

ถึงแม้ว่าต่อมาในนัดที่ 2 นักบอลไทย ทีมชาติไทย จะสามารถแก้ฟอร์มได้ โดยไปบุกสิงคโปร์ ชนะ 1-3 ประตู แต่การทำงานในฐานะผู้คุมทีมและผู้ฝึกสอนของ “มาโนล โพลกิง” ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว และมาดามแป้ง ผู้จัดการ นักบอล ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้แต่งตั้ง “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือชาวญี่ปุ่น เข้ามาทำหน้าที่แทนทันที

ฉันขอเล่าประสบการณ์ของฉันโดยตรง ที่เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ฉันเข้ามาเป็นแฟน นักบอลไทย ทีมชาติไทย ฟุตบอลไทย เริ่มต้นจากที่ ฉันได้นั่งอยู่บ้านกับพี่ชายที่กำลังดู ฟุตบอลไทย อยู่ทางโทรทัศน์ ฉันซึ่งไม่มีอะไรทำในวันหยุด จึงได้ไปนั่งดูด้วย ซึ่งในตอนแรกยอมรับว่าดูไม่รู้เรื่องแต่ซักพักก็ถามพี่ไป ดูไป จนทำให้เกิดความสนุกสนาน และด้วยความคนไทยเลยเชียร์ ฟุตบอลไทย อย่างสุดตัว พอเริ่มสนุกก็ทำให้ฉันเริ่มชอบ ฟุตบอลไทย มากยิ่งขึ้น จนวันหนึ่ง ฉันได้มีโอกาสไปเชียร์ ฟุตบอล ทีมชาติไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเป็นครั้งแรก พอเข้าไปนั่งที่นั่งความรู้สึกคือเหมือนประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แต่พอเกมเริ่มเท่านั้น ฉันก็ขนลุกขึ้นมาทันที สาเหตุเพราะเสียงของกองเชียร์ ที่ดังสนั่น ให้กำลังใจ นักบอลไทย แบบไม่มีแผ่ว ยิ่งเวลาลุ้นประตู คนรอบด้านรวมถึงฉัน ก็จะมีอารมณ์ร่วมกันเกือบทั้งสนาม ทำให้การมาดูบอลที่สนาม ก็เป็นอีกบรรกาศที่มีทั้งลุ้น ตื่นเต้นตลอดเวลา แม้ระหว่างที่ดู อากาศจะร้อนมากก็ตาม แต่สุดท้ายการที่ได้มาเชียร์ในสนามครั้งแรก มีความรู้สึกประทับใจมาก และเมื่อไหร่ที่ฉันมีโอกาส ฉันก็จะไปเชียร์ ฟุตบอลไทย ที่สนามอยู่เรื่อยๆ ซึ่งในเกมการแข่งขัน รอบคัดเลือก การแข่งขันฟุตบอลโลก ฉันก็เป็นหนึ่งคนที่อยู่เชียร์ ฟุตบอลไทย ในสนามเช่นกัน 

 

“เจ้อเจียง” ตะลุมบอน บุรีรัมย์ ในการแข่งขัน ฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก

สู่วงการฟุตบอลสโมสร ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม H นัดที่ 5 โซนตะวันออก ที่สนามหูโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ผลการแข่งขันคือ เจ้อเจียง เอฟซี สามารถเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟุตบอลไทย ไปได้ 3-2 ประตู

แต่เมื่อจบการแข่งขัน ก็ได้เกิดเหตุการณ์บานปลายปะทะกันเกิดขึ้น ระหว่าง นักเตะ เจ้อเจียง เอฟซี และ นักบอลไทย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเหตุกาาณ์นี้ ได้ถูกพูดถึงกันอย่างมากจากแฟนบอลทั่วเอเชีย ซึ่งเรื่องราวการปะทะที่เกิดขึ้น ทำให้สื่อได้วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เจ้อเจียง เอฟซี อาจถูกลงโทษจากเอเอฟซี สถานหนัก

 

สรุป 

จากในแวดวง ฟุตบอลไทย นักบอลไทย จะเห็นได้ว่า ตลอด 1 ปีหรือ 365 วัน มีการเปลี่ยนแปลง หรือเกิดเหตุการณ์ต่างๆมากมาย เพราะการเล่น ฟุตบอล ก็เหมือนการเล่นเกมแบบหนึ่ง ที่ต้องเสี่ยงทาย ที่ต้องลุ้น ว่าจะแพ้หรือชนะ และมีทั้งสมหวังและผิดหวัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นสิ่งที่ดี ก็ควรเก็บไว้และนำไปพัฒนา นักบอลไทย ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าแย่ ก็นำเหตุการณ์นั้น ไปเป็นประสบการณ์ และนำมาเป็นบทเรียนที่พร้อมปรับปรุง เพื่อที่จะช่วยยกระดับแวดวง ฟุตบอลไทย และเหล่าบรรดา นักบอลไทย ทีมชาติไทย ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างมีพบก็ต้องมีจาก ในส่วนของฉัน ก็จะยังคงติดตามเรื่องราว ฟุตบอลไทย ข่าวบอลมาใหม่ อยู่เรื่อยๆ และคอยซัพพอร์ต เพื่อให้ ฟุตบอลไทย ทีมชาติไทย ของประเทศเรา เป็นที่รู้จักและไปไกลระดับโลก  

 

Ref

  1. Reference list: leah (May 17, 2023)Huge brawl erupts at Thailand v Indonesia SEA Games football final  site at https://thethaiger.com/news/world/huge-brawl-erupts-at-thailand-v-indonesia-sea-games-football-final-video (Accessed 8 December 2023) [1]
  2. Reference list: newsdirectory3 (July 10, 2023)Chanathip Songkrasin: From J-League to Leading BG Pathum United to Success site at https://www.newsdirectory3.com/chanathip-songkrasin-from-j-league-to-leading-bg-pathum-united-to-success/ (Accessed 8 December 2023) [2]
  3. https://www.bangkokpost.com/sports/2600631/poor-response-for-thai-league-broadcasting-rights-deal

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ >> โหลดเกมส์

Scroll to Top