บทละครของแชมป์ พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้จบลงในรูปแบบที่นักการตลาดใฝ่ฝัน เพราะทีมที่คู่ควร ณ ตอนนี้ มันมีแค่ แมนฯซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล
บทละครของแชมป์ “หงส์แดง” เปรียบเสมือนบทที่ถูกเขียนแบบ “ด้นสด” แต่ แมนฯซิตี้ เป็นบทที่ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าคือมันต้องจบแบบนี้เท่านั้น
การรูดม่านในเวย์นี้ทำให้อารมณ์การรับแชมป์ของ “เรือใบ” ได้อรรถรสแบบ “สะใจ” มากกว่าการถล่มเละปิดเกมตั้งแต่ไก่โห่
กลับกันฝั่ง “หงส์แดง” ที่เคยทำใจไว้ตั้งแต่ก่อนแข่งย่อมแอบ “ร้าว” และอึ้งกับการถูกให้ความหวังในช่วงพักครึ่งเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ เอติฮัด
ผมยอมรับแบบไม่อายเลยว่าเตรียมตั้งกล้องทำ content ทั้งผ้าพันคอ, ถ้วยพรีเมียร์ ถูกหยิบออกมาหมดแล้วหลัง เฟลิปเป้ คูตินโญ่ ยิง 2-0 ในนาที 69
ไม่ต้องให้คนที่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ก็อดคิดไม่ได้ว่าประตูของ “คูตี้” เป็นบทที่ถูกวางเอาไว้อีกเช่นกัน
แม้ตอนนั้นที่ แอนฟิลด์ ยังเสมอกันอยู่แต่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ทำให้พวกเราเห็นมาตลอดทั้งซีซั่นว่าไม่ช้าก็เร็วการพลิกสถานการณ์มันต้องเกิดขึ้นแน่ๆ
ในขณะที่ “เรือใบ” หากได้เห็นการเล่นวันนี้แล้วรู้ได้เลยว่าความกดดันที่แบกไว้เต็มบ่าทำให้การเข้าทำในกรอบเขตโทษไม่เหลือก็ขาด ทุกอย่างไม่มีความพอดี
แต่เมื่อประตูตีไข่แตกเกิดขึ้นในนาที 76 เราได้เห็นความเป็นตัวตนของ ซิตี้ กลับมาทันที
ณ ช่วงเวลานั้นผมก็ยังเชื่อมั่นว่าเต็มกลืนทีม เป๊ป กวาดิโอล่า เต็มที่ก็แค่เสมอ
บอลท้ายเกม เวลาเหลือไม่ถึง 15 นาทีขี้หมูขี้หมาก็ต้องมีจังหวะเวลาที่กินเข้าไป 5-10 นาทีกว่าจะเกิดขึ้นซักลูกนึง ยังไงก็ไม่พอให้เหลือถึงชัยชนะ มันไม่ใช่การ์ตูนหรือเตะฟุตซอลนะเฮ้ย
ไม่ได้พูดเกินเลยนะ ถ้าจะมีทีมไหนที่ยิง 3 ลูกใน 5 นาทีท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ผมว่านึกออกไวๆ แมนฯซิตี้ ทีมเดียวนี่แหละที่ทำได้
2 ตัวสำรองที่ เป๊ป ทิ้งไพ่ลงมากลายเป็นจุดเปลี่ยนและเริ่มปฏิบัติการ “ทวงคืนแชมป์กลับเมืองแมน”
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่เลี้ยงไม่ค่อยผ่านใครและแฟนยี้มากที่สุดกลับกระชากหนี ลูกาส์ ดีญ แล้วครอสน้ำหนักข้ามหัวแคชไปเข้าหัว อิลคาย กุนโดกัน แบบเป๊ะเวอร์ 2 ซูเปอร์ซับ คอนเนคชั่น
การที่ลูก 2 มาไวเหมิอนติด “บัก” แค่ 2 นาที 30 กว่าวินาทีทำให้เจ้าถิ่นมีเวลาจากที่ตอนแรกคิดว่าน้อยกลายเป็นเหลือๆ (12 นาทีไม่รวมทดเจ็บ)
เพียงชั่วพริบตาที่ใครได้ดูไฮท์ไลท์หาก ไทรอน มิงส์ แค่สกัดบอลทิ้งแบบ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ลูกที่ 3 ของ “เรือใบ” ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
การสกัดแบบเผื่อให้เพื่อนมาเก็บบอลจังหวะ 2 กลายเป็นตั้งให้ เควิน เดอ บรอยน์ และเมื่อคุณปล่อยให้แข้งปีศาจเท้าฉมังเปิดบอลเหน่งๆจากด้านข้าง นั่นเท่ากับคุณได้เขียนใบมรณะบัตรให้ตัวเองไปแล้ว (ถ้าตัวจบสกอร์คมนะ)
เมื่อฤดูกาล 2011-12 หรือ 10 ปีที่แล้วโลกได้เกิดเหตุการณ์ กุนนน อเกวโร่ ยิง 3-2 ในนาที 93.20 พา ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ครั้งนี้ซ้ำรอยเดิมคือ “กุน” ที่เป็น กุนนนโดกัน ทำให้ ซิตี้ ไม่จบซีซั่นแบบมือเปล่าและได้ฉลองแชมป์แบบดราม่าไม่ต่างจากวันที่ชนะ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส
สนับสนุนโดย >>> @vv123
อ่านต่อได้ที่ >>> ข่าวฟุตบอล