รองแชมป์ฟุตบอล ความรู้สึกของผู้แพ้ในนัดชิง ทำไมทีมรองแชมป์มักกลับมายาก
รองแชมป์ฟุตบอล ความรู้สึกของผู้แพ้ในนัดชิง ในโลกฟุตบอลเชื่อว่ามีแฟนบอล หลายคนที่จะรู้กันดีว่า การเจอกันของทีมที่เป็นแชมป์ และทีมรองแชมป์ หรือการที่ทีมที่กลายเป็นรองแชมป์มาก่อนนั้น
จะยากมากที่จะ กลับมาเป็นแชมป์ได้ เชื่อว่าแฟนบอลหลายคน คงจะทราบกันดีว่า ทีมแชมป์กับทีมรองแชมป์ ในโลกฟุตบอลนั้นต่างกัน การที่เป็นแชมป์ ในการแข่งขันฟุตบอล จะได้เปรียบหลายอย่างมาก ในโลกฟุตบอล
ที่การแข่งขันและ ประสบการณ์เป็น เรื่องที่สำคัญมาก สำหรับทีมฟุตบอล เพราะมีหลายทีมที่เป็นรองแชมป์ และพลาดแชมป์ไป ในฤดูกาลถัดมา อาจจะเสียศูนย์และ หาฟอร์มเดิม ได้ยากขึ้นมากในการแข่งขัน
หลายทีมในโลกฟุตบอล มักจะเป็นแบบนี้ ที่ หลายทีมล้มเหลว ในเกมนัดชิงชนะเลิศ และไม่สามารถ กลับมาได้ คือขุมกำลังชุดนั้น ไม่สามารถ ลืมความเจ็บปวด จากการพ่ายแพ้ ในเกมสุดท้าย ของฤดูกาล
ยิ่งแพ้ในรอบลึก มากเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บปวด มากเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ เกิดขึ้นจริง ในวงการกีฬา โดยไม่ต้องใช้ ผลการทดลอง ทางวิทยาศาสตร์มาเป็นข้อยืนยัน เพราะยิ่งทีมมี ความหวังจะเป็นแชมป์มากเท่าไหร่
ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ความผิดหวัง ยิ่งย้อนกลับมา มากเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ งานวิจัย บอกได้คือ มนุษย์ไม่ใช่ สิ่งมีชีวิตที่ มีสภาพจิตใจแข็งแรง เราจดจำเรื่องราว ที่ทำให้ตัวเอง รู้สึกผิดหวัง อับอายต่อคนรอบข้างได้ดีเสมอ
กลายเป็นบาดแผล ในจิตใจที่ ยากจะลืมเลือน ซึ่งสำหรับ นักกีฬาคือ การไม่ได้คว้าแชมป์ จากการแพ้ใน รอบชิงชนะเลิศ บาดแผลทางจิตใจที่มาจากความล้มเหลว ส่งผลอย่าง มากต่อชีวิตนักกีฬา รวมถึงคนทั่วไป โหลดเกมส์
เนื่องจากพวกเขา ไม่สามารถหยุดคิด หรือรู้สึกผิด กับความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น จนสุดท้าย ก็เข้ามาลด ประสิทธิภาพ ผลงานการแข่งขันในสนาม อีกหนึ่งตัวอย่าง ที่เกิดขึ้นไม่นานนัก คือ ความล้มเหลวของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์
กับการเข้าชิงชนะเลิศ ศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2019 ซึ่งเป็นครั้งแรก ที่ทัพไก่เดือยทอง เข้าสู่เกมนัดชิง ที่ยิ่งใหญ่ระดับนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะมาถึง ทุกคนตั้งความหวัง ที่จะเป็นแชมป์ในปีนั้น
สุดท้ายสเปอร์ส โดน ลิเวอร์พูล คู่แข่งเพื่อนร่วมชาติ ในเกมวันนั้น ต้อนแบบหมดท่า ในเวลาต่อมา เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ผู้จัดการทีมของ ท็อตแนมชุดดังกล่าว ออกมายอมรับว่า เขาไม่เคยทำใจกับ เรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย
สุดท้าย สเปอร์สของ กุนซือชาวอาร์เจนตินารายนี้ ไม่สามารถก้าวข้าม ความผิดหวังที่ เกิดขึ้นได้ พวกเขาทำ ผลงานได้น่าผิดหวัง จนนำมาสู่การปลดโปเช็ตติโน ออกจากตำแหน่ง ปิดฉากยุคสมัยของ สเปอร์ ชุดรองแชมป์ยุโรปในที่สุด
รองแชมป์ฟุตบอล ความรู้สึกของผู้แพ้ในนัดชิง อีกหนึ่งเรื่องราวจากการทำผิดพลาดในฐานะรองแชมป์
หากพูดถึงนักเตะ ที่ต้องผิดหวังและ ฟอร์มกำลังอยู่ในจุดสูงสุด มีแต่ความมั่นใจ และเป็นที่รัก และพุ่งลง สู่จุดต่ำสุดลง อย่างรวดเร็ว ที่แฟนบอลในยุคสมัยนี้ ต้องรู้จักอย่างแน่นอน กับเรื่องราวของ ผู้รักษาประตู
อย่างลอริส คาริอุสที่ก่อน ศึกชิงแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกในปี 2018 นี้คือผู้รักษาประตูที่ได้รับ ความไว้วางใจจาก เยอร์เกน คล็อปป์ ให้ลงเฝ้า ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2018
แต่เจ้าตัวกลับ ก่อความผิดพลาด แบบไม่น่าเชื่อ ส่งผลให้ ทีมลิเวอร์พูล ต้นสังกัด ของเขาพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด 1-3 คาริอุสถูกโจมตี อย่างหนักในฐานะ ต้นเหตุที่ ทำให้ทีมแพ้ จากคนเก่ง มีความสามารถ
ถึงขนาดได้เป็นมือ 1 หงส์แดง แปรเปลี่ยนชั่วข้ามคืนกลาย เป็นนักฟุตบอล ที่สูญเสียความมั่นใจ ไม่สามารถเล่น เกมระดับสูง ได้อีกต่อไป จนต้องถูก ส่งตัวไปให้ เบซิคตัส และ ยูนิโอน เบอร์ลิน ยืมใช้งาน ดาวรุ่งผิวสีในอังกฤษ
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งสองสโมสร ต่างยกเลิกสัญญากับ คาริอุสก่อนกำหนด เนื่องจากมองว่า มือโกล์ ชาวเยอรมัน ไม่ได้อยู่ใน สภาพที่พร้อมหรือ ทำผลงานได้ คุ้มค่ามากพอ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟอร์มการเล่น
และความมั่นใจทุกอย่าง ที่มันหายตกลง มันเป็นบาดแผลในใจ จากนัดชิง UCL 2018 ที่ฝังลึกจนทำให้ชีวิต การค้าแข้งลอริส คาริอุสแทบพังทลาย และจนปัจจุบัน เขายังไม่สามารถ กลับมาเล่นได้ปกติอีกเลย
เพราะในปัจจุบันเขายัง อยู่กับลิเวอร์พูล และแทบไม่ได้รับโอกาศ ในการลงสนามเลยก็ว่าได้ จะขายหรือให้ยืมตัว ก็ไม่มีสโมสรแห่งไหน สนใจ นี้จึงเป็นหนึ่ง เรื่องราว ของนักเตะที่เสียศูยน์จากการเป็น รองแชมป์อย่างชัดเจน
รองแชมป์ฟุตบอล ความรู้สึกของผู้แพ้ในนัดชิง การย้ายออกจากทีมรองแชมป์ก็เป็นเรื่องปกติในโลกฟุตบอล
หากเป็นแฟนบอลที่ ติดตามฟุตบอลและ เคบติดตามลีกของประเทศเยอรมัน อย่างบุนเดสลีก้า คงจะทราบดีว่าทีมแชมป์ ของลีกบุนเดสลีก้าคือ บาเยิร์นมิวนิค และรองแชมป์ ของลีกแห่งนั้นก็คือดอร์ทมุนด์
โดยหากติอตามจะ ทราบดีว่านักเตะ ส่วนใหญ่ในลีกนั้น เลือกไปอยู่สโมสรบาเยิร์นมิวนิค กันเป็นจำนวนมาก หากทางบาเยิร์นให้ความสนใจ โดยเรื่องของการย้ายทีม จากทีมรองแชมป์ เพื่อไปอยู่ทีมแชมป์นั้น
ชัดสุดก็คงต้อง พูดถึงลีกนี้ กับยอดนักเตะอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี หลังจากเป็นกำลังหลักพาดอร์ทมุนด์ เข้าชิงยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2013 แต่พ่ายแพ้ให้ กับสโมสรเบอร์หนึ่ง ของเมืองเบียร์ อย่าง บาเยิร์น มิวนิค
เจ้าตัวเลือกย้าย จากต้นสังกัดเดิม ไปอยู่บาเยิร์น ในปี2014 ชนิดที่เรียกว่า ขนาดดอร์ทมุนด์ทุ่มค่าเหนื่อย ก้อนโตเพื่อ หวังรั้งเขาไว้ ก็ไม่สำเร็จ เพราะเลวานดอฟสกี ขอย้ายไปเป็นแชมป์กับทัพเสือใต้
ดีกว่าอดอยาก ความสำเร็จกับ ทีมเสือเหลือง ไม่ใช่แค่เลวานดอฟสกี ที่ออกจากทีมชุดนั้น เพราะในเวลาไล่เลี่ยกัน มัตส์ ฮุมเมิลส์, อิลคาย กุนโดกัน, มาริโอ เกิตเซ ก็ย้ายออกจาก ทีมกันถ้วนหน้า
ก่อนที่ทุกคนจะ สมหวังเป็นแชมป์ ลีกดังใจต้องการ ซึ่งเลวานดอฟสกี สามารถลบแผลในใจได้อย่างสมบูรณ์ กับการคว้าแชมป์ ยุโรปได้อีกด้วย ขณะที่ โบรุสเซียดอร์ทมุนด์ นับตั้งแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ ก็ไม่เคยได้แชมป์ใหญ่อีกเลย
เรื่องราวของฟุตบอลบุนเดสลีก้าที่ตอกย้ำว่า การเล่นให้ทีมเป็นแชมป์ ดีกว่าอยู่จงรักภักดีกับทีมรองแชมป์
มุมหนึ่งคนอาจคิดว่า เพราะพวกนักเตะ เลือกทิ้งทีมไป หลังจากความพ่ายแพ้ ในเกมนัดชิงชนะเลิศยูซีแอล แต่สุดท้ายคงต้อง กลับมามองว่า หากดอร์ทมุนด์ ชนะเกมวันนั้น พวกเขาสามารถสถาปนาตัวเอง
ขึ้นมาเป็นทีมเบอร์หนึ่ง ของเยอรมัน เทียบเท่ากับบาเยิร์น จะสามารถรั้งนักเตะได้ต่อไป และสร้างแรงจูงใจ ต่อการพัฒนาทีม ในระยะยาวได้ แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น บาเยิร์นคือผู้ชนะ ตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่ง
และในมุมของนักกีฬา ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครอยากเป็นเบอร์สอง สุดท้ายเหล่า นักเตะของดอร์ทมุนด์รู้ดีว่า ทีมของพวกเขา ยังดีไม่พอที่จะเป็นแชมป์ จึงจำใจจาก ต้องแยกย้ายกันไป หาความสำเร็จ กับทีมอื่น
เป็นเรื่องที่แปลกแต่ เป็นความเป็นจริงของวงการและ วิถีของวงการฟุตบอลที่จะวนเวียนเดินหน้าไปเสมอ
เพราะทุกทีม กีฬาบนโลกต้อง เจอกับความล้มเหลว ในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง การแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ หรือการตกชั้น ทั้งหมดล้วนเป็นความเจ็บปวด ที่ตามแต่ โชคชะตาจะเผชิญ แต่สุดท้ายแล้ว ขึ้นอยู่กับนักกีฬาของแต่ละทีมว่า
พวกเขาจะก้าวข้าม ผ่านมันได้หรือไม่ บางคนทำได้ บางรายพยายามแล้ว แต่ไม่สำเร็จ หลายคน ก็เลือกย้ายทีม เพื่อหนีบรรยากาศ ความล้มเหลว ไปหาโอกาสใน การประสบความสำเร็จมากกว่า แล้วแต่คนจะเลือก